ความชุกของปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยป้องกันการใช้สารเสพติดในเด็กนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 ลำพูน

Main Article Content

ไพรสันต์ กันเพ็ชร์
สริตา ธีระวัฒน์สกุล

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยเชิงปริมาณครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาความชุกของปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยป้องกันต่อการใช้สารเสพติดของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 ลำพูน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 355 คน คัดเลือกโดยวิธี Multistage Cluster Sampling เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยป้องกันของกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นมาตามแนวคิดของฮอว์กิน, คาทาลาโน และมิลเลอร์ (Hawkins, Catalano, and Miller, 1992) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่ามัธยฐาน


ผลการศึกษา พบว่า ความชุกปัจจัยเสี่ยงมากที่สุดคือ ปัจจัยเสี่ยงในชุมชนร้อยละ 64.2 ปัจจัยเสี่ยงในครอบครัวร้อยละ 49.7 ปัจจัยเสี่ยงในโรงเรียนร้อยละ 17.5 และปัจจัยเสี่ยงส่วนบุคคลร้อยละ 12.4 ตามลำดับ ความชุกปัจจัยป้องกันมากที่สุดคือ ปัจจัยป้องกันในโรงเรียนร้อยละ 94.9 ปัจจัยป้องกันในครอบครัวร้อยละ 93.0 ปัจจัยป้องกันในชุมชนร้อยละ 92.1 และปัจจัยป้องกันส่วนบุคคลร้อยละ 91.9 ตามลำดับ

Article Details

How to Cite
กันเพ็ชร์ ไ., & ธีระวัฒน์สกุล ส. (2019). ความชุกของปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยป้องกันการใช้สารเสพติดในเด็กนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 ลำพูน. วารสารมหาวิทยาลัยพายัพ, 29(1), 120–131. https://doi.org/10.14456/pyuj.2019.10
บท
บทความวิจัย

References

คณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดลำพูน. (2558). รายงานการประชุม.

จิราภรณ์ ลิ่มนิจสรกุล. (2546). ปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยปกป้องการเสพติดสารแอมเฟตามีนในวัยรุ่น. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ฉัตรชัย อินบำรุง. (2556). การจัดระบบการป้องกันปัญหายาเสพติดของโรงเรียนบ้านแม่คะ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ฐิติทรัพย์ พระแก้ว. (2554). การป้องกันปัญหายาเสพติดในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่. การค้นคว้าอิสระ หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ณัฐวุฒิ จันดี. (2555). ปัญหาการแก้ไขการกระทำผิดซ้ำในคดียาเสพติดของเยาวชนในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 7 จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ณัฐวุฒิ ประโมง. (2557). การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมต้านยาเสพติดในกลุ่มนักเรียน. ดุษฎีนิพนธ์ ปริญญาดุษฎีบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์.

ปิยดา ละอองปลิว. (2551). การศึกษาแบบแผนความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยบางประการกับพฤติกรรมการป้องกันสารเสพติดของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุทัยธานี. วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 9 (2), 1-13.

พรรณภา เรืองกิจ. (2554). ปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยป้องกัน การใช้สารแอมเฟตามีนของนักเรียนวัยรุ่นศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มศึกษาและกลุ่มควบคุมแบบไม่จับคู่. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

พนม เกตุมาน. (2550). รายงานการทบทวนสถานการณ์เรื่องปัญหาพฤติกรรมของวัยรุ่น. มหาวิทยาลัยบูรพา.

พุทธชาติ คำสำโรง. (2549). พระสงฆ์กับการส่งเสริมเยาวชนและประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด (รายงานผลการวิจัย). ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

รังสรรค์ เสนาสิงห์. (2550). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการหลีกเลี่ยงการใช้ยาเสพติดของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ. การค้นคว้าอิสระ หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ศุภกร ชินะเกตุ. (2553). ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมป้องกันยาเสพติดของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สังกัดอาชีวะศึกษา จังหวัดราชบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรมสุขภาพจิต. (2559). สถิติการบำบัดรักษา. ม.ป.ท.

อรุณไสว ปินอินต๊ะ. (2552). ความร่วมมือระหว่างโรงเรียนกับชุมชนในการป้องกันสารเสพติดใน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่. การค้นคว้าอิสระ หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

Hawkins, .J.D., Catalano, R.F., and Miller, .J.Y. (1992). Risk and Protective Factors for Alcohol and Other Drug Problems in Adolescents and Early Adulthood: Implications for Substance Abuse Prevention. Psychological Bulletin, 112 (1), 64-105.