ปัญหาการใช้สิทธิในการเปลี่ยนมือที่ดินตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 (ส.ป.ก.)
คำสำคัญ:
การครอบครองที่ดิน, การแบ่งแยกที่ดิน ส.ป.ก., หนังสือแสดงสิทธิในที่ดินบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาที่มาของสภาพปัญหา หลักเกณฑ์ ทฤษฎีและมาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวกับอำนาจของเจ้าหน้าที่ในการออกโฉนดหรือหนังสือแสดงสิทธิหรือการแบ่งแยกที่ดิน ส.ป.ก. ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มาตรา 39 ศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายไทยกับกฎหมายต่างประเทศในเรื่องการได้สิทธิในที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อนำผลของการศึกษามาเสนอเป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายให้บุคคลที่ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. สามารถเปลี่ยนมือให้บุคคลอื่นนอกจากทายาทโดยธรรมได้
ผลวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพที่ศึกษาจากประมวลกฎหมายที่ดิน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 หนังสือ ตำรา บทความวิชาการกฎหมาย และการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านรวมทั้งประชาชนผู้ที่เกี่ยวข้อง จากการศึกษาพบว่ากรณีในการแจ้งความประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินตามมาตรา 27 ตรี ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ส.ป.ก. จึงมิอาจกระทำได้ สำหรับกรณีเป็นผู้ครอบครองมาก่อนการกำหนดเป็นเขตป่าไม้ หลังจากการประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดินปี พ.ศ. 2497 สามารถออกหนังสือแสดงสิทธิได้จากการสำรวจตามมาตรา 58 และมาตรา 58 ทวิ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ดังนั้น พนักงานเจ้าหน้าที่จะออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินเฉพาะผู้ที่แจ้ง ส.ค.1 และแจ้ง ส.ค. 2 ก่อนการกำหนดเป็นเขต ส.ป.ก. เท่านั้น พนักงานเจ้าหน้าที่จึงไม่มีสิทธิออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินจึงทำให้บุคคลที่ครอบครองขาดสิทธิในที่ดิน ส.ป.ก.
ข้อเสนอแนะควรมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มาตรา 39 วางหลักว่า ที่ดินที่บุคคลได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจะทำการแบ่งแยกหรือโอนสิทธิในที่ดินนั้นไปยังผู้อื่นมิได้ เว้นแต่เป็นการตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรมหรือโอนไปยังสถาบันเกษตรกรหรือ เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มาตรา 39 ควรปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมกำหนดสิทธิให้ผู้ที่ทำกินหรือครอบครองในที่ดิน ส.ป.ก. ขายหรือแบ่งแยกให้บุคคลอื่นที่มิใช่ทายาทโดยธรรมได้ เพราะจะทำให้ไม่เกิดความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดินอย่างเช่นบุคคลที่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน (โฉนดที่ดิน) ใบรับรองการทำประโยชน์ในที่ดิน (น.ส. 3 น.ส. 3 ก) หนังสือสำคัญแสดงสิทธิในที่ดิน (ส.ค. 1) ซึ่งจะทำให้การใช้สิทธิในการถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ของประชนโดยรวมในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ทำกินหรือครอบครองในที่ดิน ส.ป.ก. ได้สิทธิในการขายหรือแบ่งแยกให้บุคคลที่มิใช่ทายาทได้รวมทั้งจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีที่ดินในการทำเกษตรกรรมและจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
กรรมสิทธ์. (2441). เป็นคำใหม่พบในบทบัญญัติของกฎหมายครั้งแรกในสมัยรัชการที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตามประกาสออกตราจองที่ดินคลองประเวศบุรีรมย์และครองแยก ร.ศ. 117 ข้อ 17.
เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม. (2521). ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดินและตัวนำการเปลี่ยนแปลงในการปฏิรูปที่ดิน. กรุงเทพฯ: คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์.
คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม และคณะ. (2545). แนวทางการเสริมสร้างประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540. นนทบุรี: สถาบันพระปกเกล้า.
จุฑามาศ นิศารัตน์. (2544). ความเข้าใจและความคิดเห็นเกี่ยวกับกฎหมายการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม. กรุงเทพฯ: คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
เจสัน ลูบันสกี้. (2559). ที่ดินคือชีวิต กรณีศึกษาเรื่องการรณรงค์ปฏิรูปที่ดินในเขตภาคเหนือ. สถาบันบัณฑิต SIT 2555.
โจนัส ดาลลิงเกอร์ “การพัฒนาปาล์มน้ำมันในประเทศไทย: ข้อพิจารณาด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม” บรรณาธิการโดย เอ็ม โคลเชสเตอร์และ เอ็ม เชา การขยายตัวของปาล์มน้ำมันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: แนวโน้มและนัยยะสำหรับชุมชนท้องถิ่นและชนเผ่าพื้นเมือง แผนงานคนป่าและเพอกัมพูลัน สาวิต วอช (Perkumpulan Sawit Watch) 2554.
ชัยวัฒน์ วงศ์วัฒนศานต์. (2525). กฎหมายและการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (พิมพ์ครั้งที่3).กรุงเทพฯ: แสงจันทร์การพิมพ์.
เทียมทัน อุณหะสุวรรณ์. (2538). การควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เกษตรกรได้รับกรรมสิทธิ์จากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์, กรุงเทพฯ.
บวรศักดิ์ อุวรรณโณ. (2538). คำอธิบายกฎหมายมหาชนเล่ม 3. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์นิติธรรม.
ประดิษฐ์ มัชฌิมา. (2519). การปฏิรูปที่ดินในประเทศญี่ปุ่นบทที่ 3. ใน ณรงค์ สินสวัสดิ์ (บรรณาธิการ), การปฏิรูปที่ดิน. กรุงเทพฯ: แพร่พิทยา.
ปรีชา พรหมเพชร. (2541). มาตรการทางกฎหมายในการควบคุมการถือครองที่ดิน (วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยรามคำแหง, กรุงเทพฯ.
พนัส ทัศนียานนตท์ และ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ. (2534). รายงายผลการศึกษาวิจัย โครงการศึกษาวิจัยสิ่งแวดล้อมด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ. ระยะที่ 1 ส่วนที่ 2 .
เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์และคณะ. (2556). รายงานผลการศึกษาโครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า. รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพฯ: สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล.
ร แรงกาต์. (2526). ได้อธิบายไว้ว่า “ โฉนด” เป็นคำภาษาเขมรหมายความว่าหนังสือโปรดดู ประวัติศาสตร์ กฎหมายไทยเล่ม 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช .
วรพจน์ วิศรุตพิชญ์. (2535). ความหมายของ “เกษตรกร” ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518. แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2519 และ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2532 รพีสาร มกราคม-มีนาคม.
ศิรินภา อภิญญาวัชรกุล. (2554). นิติสำนึกของเกษตรกรผู้ซื้อและขายที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ในตำบล บ้านช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, เชียงใหม่.
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย. (2555). โครงการศึกษาและพัฒนาสิทธิการถือครองที่ดินของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อนำไปสู่กรรมสิทธิ์ในที่ดินรัฐ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์วิฑูรย์การปก.
สถิตพงษ์ สุดชูเกียรติและคณะ. (2557). โครงการวิจัยธนาคารที่ดิน. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
สลิตตา โลหัตถกร. (2548). การมีส่วนร่วมของประชาชน ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
สีดา เจตีร์. (2519). ฟิลิปปินส์กับการปฏิรูปที่ดิน. ใน ณรงค์ สินสวัสดิ์ (บรรณาธิการ), การปฏิรูปที่ดิน. กรุงเทพฯ: แพร่พิทยา.
อรพันธ์ ณ บางช้าง ศรีเสาวลักษณ์. (2549). ข้อมูลการครอบครองที่ดินในประเทศไทย องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ. สืบค้นจาก https://data.opendevelopmentmekong.net/dataset/land-tenure-data-in-thailand
Food and agricultural policy research center. (1988). Changes in Japan s agrarian structure. Tokyo: shinseisakusha Co.,Ltd,.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ข้อความที่ปรากฎในวารสารฉบับนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนแต่ละท่าน สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย และกองบรรณาธิการ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ
สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ขอให้ผู้อ่านอ้างอิงในกรณีที่ท่านคัดลอกเนื้อหาบทความในวารสารฉบับนี้