ความเหมาะสมของการนำระบบคณะลูกขุนมาใช้กับระบบวิธีพิจารณาความอาญาไทย: กรณีศึกษาตำบลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเลย

ผู้แต่ง

  • มาณพ ประวาลลัญฉกร อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย

คำสำคัญ:

ระบบวิธีพิจารณาความอาญา, ระบบลูกขุน

บทคัดย่อ

                บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์  1) เพื่อศึกษาระบบคณะลูกขุนของประเทศที่ใช้กฎหมายในสกุล Common Law ได้แก่ ประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา  2) เพื่อศึกษาระบบคณะลูกขุนของประเทศที่ใช้กฎหมายในสกุล Civil Law ได้แก่ ประเทศ ฝรั่งเศส และศาล Saiban-in ของประเทศญี่ปุ่น  3) เพื่อศึกษาวิวัฒนาการของระบบวิธีพิจารณาคดีอาญาและการสืบพยานของไทย 4) เพื่อศึกษาถึงการยอมรับของประชาชนที่มีต่อคำพิพากษาของศาลในคดีอาญา 5) เพื่อศึกษาถึงความคิดเห็นของประชาชนในท้องถิ่นต่อการที่จะนำเอาระบบคณะลูกขุนมาใช้ในการพิจารณาคดีอาญา 6) เพื่อให้ได้ข้อเสนอแนะและแนวทางที่เหมาะสมของการนำเอาระบบคณะลูกขุนมาใช้ในการพิจารณาคดีอาญาของไทย การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพผสมผสานกับการวิจัยเชิงปริมาณ

                ผลการวิจัย พบว่า มีความเหมาะสมเป็นไปได้ที่จะนำเอาระบบลูกขุนมาใช้กับระบบวิธีพิจารณาความอาญาของไทย โดยเป็นระบบลูกขุนที่ลูกขุนที่เป็นประชาชนทั่วไปมีอำนาจเพียงผู้เดียวในการวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนผู้พิพากษาอาชีพมีหน้าที่วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายและการปรับบทลงโทษดังเช่นระบบลูกขุนของประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา

                ส่วนการยอมรับของประชาชนที่มีต่อคำพิพากษาของศาลในคดีอาญาพบว่าประชาชนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยและให้การยอมรับในการตัดสินปัญหาข้อกฎหมายของศาลมากกว่าการตัดสินปัญหาข้อเท็จจริงในคดี ด้านความคิดเห็นของประชาชนในท้องถิ่นต่อการที่จะนำเอาระบบคณะลูกขุนมาใช้ในการพิจารณาคดีอาญา  พบว่าเห็นด้วยว่าระบบวิธีพิจารณาคดีอาญาของไทยควรให้มีลูกขุนที่เป็นประชาชนทั่วไปได้เข้ามาทำหน้าที่ตัดสินปัญหาข้อเท็จจริงในคดีอยู่ในระดับมาก (gif.latex?\bar{X}= 3.92, S.D. = 0.81) และด้านถ้าระบบวิธีพิจารณาคดีอาญาของไทยมีการนำระบบลูกขุนมาใช้ก็พร้อมที่จะเข้ามาทำหน้าที่นี้ก็อยู่ในระดับมาก (gif.latex?\bar{X}= 3.84, S.D. = 0.87)

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงมหาดไทย, กรมการปกครอง, สำนักบริหารการทะเบียน. (2561). ระบบสถิติทางการทะเบียน. สืบค้นจาก http://stat.dopa.go.th/stat/statnew/upstat_age.php

จุรีรัตน์ ประวาลลัญฉกร. (2551). ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอดส์จังหวัดเลย (วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย, เลย.

ประทีป ทองสิมา. (2523). ระบบลูกขุนสำหรับประเทศไทย (วิทยานิพนธ์ปริญญานิติศาสตรมหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.

มารยาท โยทองยศ. (2561). การกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างเพื่อการวิจัย. สืบค้นจาก http://www.fsh.mi.th/kmwpcontent/uploads/2014/04/resch.Pdf

ราชกิจจานุเบกษา. (2562, 27 มีนาคม). ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา. สืบค้นจาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2478/A/598.PDF

ศาลฎีกา. (2556). ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา (คำพิพากษาฎีกาที่ 2206/2556). สืบค้นจาก http://deka.supremecourt.or.th/

อุทัย อาทิเวช. (2561). ประมวลสาระชุดวิชากฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและพยานชั้นสูง. หน่วยที่ 2 ระบบการดำเนินคดีอาญา: ระบบกล่าวหาและระบบไต่สวน. นนทบุรี: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

อภิรักษ์ นักไร่. (2560, 14 ธันวาคม). ประมวลระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดี. สืบค้นจาก https://pol419.blogspot.com/2017/12/blog-post_14.html#more

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-10-22

รูปแบบการอ้างอิง

ประวาลลัญฉกร ม. (2020). ความเหมาะสมของการนำระบบคณะลูกขุนมาใช้กับระบบวิธีพิจารณาความอาญาไทย: กรณีศึกษาตำบลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเลย. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, 15(54), 42–53. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/researchjournal-lru/article/view/240186

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย