ศักยภาพขององค์กรชุมชนในการแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ในรอบหนึ่งทศวรรษตามพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน พ.ศ. 2551: กรณีศึกษาสภาองค์กรชุมชนจังหวัดชัยภูมิ

ผู้แต่ง

  • อนุสรณ์ พัฒนศานติ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ

คำสำคัญ:

สภาองค์กรชุมชนจังหวัดชัยภูมิ, พระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน พ.ศ. 2551, การผลักดันนโยบาย

บทคัดย่อ

                การวิจัยเรื่อง ศักยภาพขององค์กรชุมชนในการแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ในรอบหนึ่งทศวรรษ ตามพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน พ.ศ. 2551: กรณีศึกษาสภาองค์กรชุมชนจังหวัดชัยภูมิ มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อคือ 1) ศึกษาและวิเคราะห์พัฒนาการและบทบาทของสภาองค์กรชุมชนจังหวัดชัยภูมิ ในรอบ 10 ปี ตามพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน พ.ศ. 2551 2) ศึกษาประเด็นปัญหาสำคัญในการผลักดันเป็นวาระนโยบายระดับชุมชนและระดับจังหวัดตลอดจนกลไกการบริหารงานของขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. 2551 – พ.ศ. 2561 และ 3) ศึกษาผลของการผลักดันนโยบายและแผนงานที่นำไปปฏิบัติและผลการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายของสภาองค์กรชุมชนจังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. 2551 – พ.ศ. 2561 โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ  

                ผลการวิจัยพบว่า

                1. องค์กรชุมชนจังหวัดชัยภูมิมีมาก่อนปี พ.ศ. 2551 ตามสภาพปัญหาและความต้องการที่หลากหลายของพื้นที่ตำบลต่างๆ เป็นหลักประกอบไปด้วย ความต้องการสวัสดิการชุมชน ปัญหาการจัดการทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ปัญหาที่อยู่อาศัย และปัญหาที่ดินทำกิน ภายหลังการเกิดขึ้นของพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน พ.ศ. 2551 องค์กรชุมชนจดทะเบียนในรูปของสภาองค์กรชุมชนตามกฎหมายโดยมีขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดชัยภูมิเป็นหน่วยงานกลางในการประสานงานกิจกรรม และได้รับการสนับสนุนทุนดำเนินกิจกรรมจาหน่วยงานภายนอก  

               2. การผลักดันนโยบายระดับชุมชนและระดับจังหวัดพบว่า หน่วยงานราชการระดับจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีความไม่เข้าใจบทบาทของสภาองค์กรชุมชนจังหวัดชัยภูมิจึงยังไม่มีแนวทางและสถานที่ประสานงานที่แน่นอน ต่อมาสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนเข้ามาช่วยดูแลให้เกิดทิศทางการพัฒนาจึงดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องได้

               3. นโยบายและผลของการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายที่ผลักดันของสภาองค์กรชุมชนจังหวัดชัยภูมิต่อหน่วยงานระดับจังหวัดมีลักษณะการประสานงานและพึ่งพาหน่วยงานจากภายนอกคือ หน่วยงานราชการในระดับจังหวัดและสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนมีผลให้นโยบายอยู่ในกรอบของการกำหนดกิจกรรมตามแหล่งทุนกำหนดมามากกว่าผลักดันปัญหาขึ้นมาจากพื้นที่โดยตรง พื้นที่ที่มีปัญหาความต้องการที่แตกต่างจากการกำหนดแนวทางของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนจะไม่สามารถเสนอความต้องการให้เป็นประเด็นหลักของการผลักดันนโยบายได้

                ข้อเสนอแนะจากการวิจัยครั้งนี้ คือ ไม่ควรมีการกำหนดลักษณะกิจกรรมให้สภาองค์กรชุมชนจังหวัดชัยภูมิดำเนินการในพื้นที่ของตน ควรจะให้สภาองค์กรชุมชนจังหวัดชัยภูมิเป็นผู้กำหนดปัญหาด้วยตนเองเพื่อผลักดันเป็นนโยบายในระดับจังหวัด และหน่วยงานภาครัฐระดับจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรให้ความใส่ใจต่อกิจกรรมของสภาองค์กรชุมชนเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน

เอกสารอ้างอิง

ณัฐวุฒิ อ่าวสกุล. (2558). กระบวนการประชาธิปไตยในสภาองค์กรชุมชนและเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ภาคกลาง (วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยรามคำแหง, กรุงเทพฯ.

ปัญญวัฒน์ กระทุ่มเขต. (2556). ปัจจัยที่มีผลต่อการนำนโยบายชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองมาปฏิบัติในจังหวัดจันทบุรี: กรณีศึกษาการขับเคลื่อน ของสภาองค์กรชุมชนตำบล (ภาคนิพนธ์ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี, จันทบุรี.

เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ. (2552). นโยบายสาธารณะเชิงวิพากษ์. วารสารพัฒนบริหารศาสตร์, 49(1), 41–66.

เสกสรรค์ ประเสริฐกุล. (2548). การเมืองภาคประชาชนในระบอบประชาธิปไตยไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อมรินทร์.

หิรัญญ์ หิรัญพิพัฒน์. (2551). บทบาทสภาองค์กรชุมชนกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น: ศึกษากรณีสภาองค์กรชุมชน ตำบลหนองสาหร่าย จังหวัดกาญจนบุรี (วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยรามคำแหง, กรุงเทพฯ.

Kraft, M. E., & Furlong, S.R. (2007). Public policy: Politics, analysis, and alternatives (2nd ed.). Washington, D.C.: CQ Press.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-10-22

รูปแบบการอ้างอิง

พัฒนศานติ์ อ. (2020). ศักยภาพขององค์กรชุมชนในการแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ในรอบหนึ่งทศวรรษตามพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน พ.ศ. 2551: กรณีศึกษาสภาองค์กรชุมชนจังหวัดชัยภูมิ. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, 15(54), 54–64. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/researchjournal-lru/article/view/242297

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย