ผลกระทบของระบบอุปถัมภ์ในหน่วยงานราชการต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ ในจังหวัดเลย
คำสำคัญ:
ระบบอุปถัมภ์, การปฏิบัติหน้าที่, ข้าราชการบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา 1) เพื่อศึกษาถึงระบบอุปถัมภ์ในหน่วยงานราชการในจังหวัดเลย 2) เพื่อศึกษาถึงผลกระทบของระบบอุปถัมภ์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการในจังหวัดเลย 3) เพื่อศึกษาถึงแนวทางในการใช้ระบบอุปถัมภ์ให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการในจังหวัดเลย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยทำการเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างจำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 34 คน ซึ่งประกอบด้วยข้าราชการแต่ละกระทรวงที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดเลย
ผลการศึกษาพบว่า
1. การมีอยู่ของระบบอุปถัมภ์ในหน่วยงานราชการมีอยู่จริงเห็นได้จาก การใช้ระบบอุปถัมภ์ในการรับคนเข้าทำงาน การให้สิ่งของมีค่าเพื่อแลกกับการเข้าถึงหรือได้เปรียบจากกระบวนการคัดเลือกคนเข้าทำงาน การประเมินผลการปฏิบัติงานที่ไม่เป็นธรรม ในส่วนของประเภทหรือรูปแบบของระบบอุปถัมภ์ที่เกิดขึ้นในหน่วยงานราชการสามารถจำแนกประเภทได้ 2 ประเภท ดังต่อไปนี้ 1) ประเภทหรือรูปแบบอุปถัมภ์ที่ใช้ความสัมพันธ์ 2) ประเภทหรือรูปแบบอุปถัมภ์ที่ใช้เงินหรือสิ่งของมีค่าในการเจรจาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ และในส่วนของพฤติกรรมและความสัมพันธ์ระหว่างผู้อุปถัมภ์กับผู้ถูกอุปถัมภ์ในหน่วยงานราชการสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท ดังนี้ 1) พฤติกรรมหรือความสัมพันธ์ที่เป็นทางการ 2) พฤติกรรมหรือความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นทางการ
2. ระบบอุปถัมภ์ส่งผลต่อความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะ คำสั่งปฏิบัติงาน การติดต่อสื่อสาร ปริมาณของงานลักษณะความยากง่าย ประสิทธิภาพในการทำงาน ความอิจฉาริษยา ความขัดแย้งในหน่วยงาน ในส่วนของระบบอุปถัมภ์ส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานสามารถจำแนกได้ 5 ประการ ดังต่อไปนี้ 1) การวัดผลประเมินผลที่ไม่เป็นธรรม 2) ส่งผลต่อการเลื่อนตำแหน่ง 3) ส่งผลต่อการเลื่อนขั้นเงินเดือน 4) การมอบหมายภาระงาน 5) การเสียสิทธิบางประการ และในส่วนของระบบอุปถัมภ์ก่อให้เกิดกลุ่มอำนาจหรือกลุ่มผลประโยชน์ภายในหน่วยงานสามารถจำแนกได้ 5 กลุ่มดังต่อไปนี้ 1) กลุ่มอำนาจที่เป็นเครือญาติ 2) กลุ่มอำนาจที่เป็นเพื่อน 3) กลุ่มอำนาจที่เกิดจากความเสน่ห์หา 4) การรวมตัวกันของผู้มีวัตถุประสงค์เดียวกัน 5) กลุ่มที่สามารถแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกันได้
3. แนวทางในการใช้ระบบอุปถัมภ์ให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานราชการสามารถจำแนกได้ 6 ประการ ดังต่อไปนี้ 1) เพื่อแก้ไขสถานการณ์ในการทำงาน 2) ประโยชน์ในการประสานงาน 3) การสนับสนุนในการทำงานในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ 4) การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ 5) ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในลักษณะพี่น้อง 6) บรรยากาศในการทำงาน
เอกสารอ้างอิง
กรีฑา ศิริเดชรัตนกุล. (2558). ระบบอุปถัมภ์กับกระบวนการสรรหาพนักงานจ้างขององค์การบริหารส่วน ตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด (การศึกษาค้นคว้าอิสระปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาสารคาม.
ขยัน วิพรหมชัย. (2550). ผลกระทบความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับผู้บริหารท้องถิ่น (การค้นคว้าอิสระปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ขอนแก่น.
ณัฐนันท์ ธนัทพิพัฒน์กุล. (2550). การศึกษาเชิงวิเคราะห์ระบบอุปถัมภ์ในสังคมไทยผ่านทฤษฎีจริยศาสตร์ของอิมมานูเอ็ลคานต์ (วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ขอนแก่น.
สำนักงานจังหวัดเลย. (2561). ทำเนียบส่วนราชการจังหวัดเลย. เลย: บกจ.รุ่งแสงธุระกิจการพิมพ์.
ภาคภูมิ มุสิกา. (2554). ระบบอุปถัมภ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ (การค้นนคว้าอิสระปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ขอนแก่น.
วิศรุต อามาตย์มุลตรี. (2558). ระบบอุปถัมภ์ในการเมืองท้องถิ่นของจังหวัดร้อยเอ็ด (วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาสารคาม.
ศิธา เธียรถาวร. (2552). ความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีต่อนักการเมืองท้องถิ่น ศึกษากรณีเทศบาลนครลําปาง (วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, นนทบุรี.
สมชาติ เสงี่ยมศักดิ์. (2554). ระบบอุปถัมภ์ในสังคมไทย: ศึกษากรณีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยรามคำแหง, กรุงเทพฯ.
สุมิตร เรืองสวัสดิ์. (2552). ระบบอุปถัมภ์กับการเลือกตั้งท้องถิ่นในเขตเทศบาลท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี (การค้นคว้าอิสระปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ขอนแก่น.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ข้อความที่ปรากฎในวารสารฉบับนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนแต่ละท่าน สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย และกองบรรณาธิการ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ
สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ขอให้ผู้อ่านอ้างอิงในกรณีที่ท่านคัดลอกเนื้อหาบทความในวารสารฉบับนี้