การศึกษาความสัมพันธ์ระบบเสียง ปี่ ลุ่มน้ำโขง
คำสำคัญ:
ความสัมพันธ์, ระบบเสียง, ปี่, ลุ่มน้ำโขงบทคัดย่อ
การศึกษาความสัมพันธ์ระบบเสียง ปี่ ลุ่มน้ำโขง เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาคุณลักษณะทางระบบเสียง ปี่ ลุ่มน้ำโขง 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์บทบาทในการบรรเลง ปี่ ลุ่มน้ำโขง โดยการศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ศึกษา ปี่ ตระกูลไม้ไผ่ลิ้นอิสระ จำนวน 12 เครื่อง ปรากฏในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ขอบเขต 6 ประเทศ มีผลการวิจัยดังนี้คือ ด้านการศึกษาคุณลักษณะทางระบบเสียง ปี่ ลุ่มน้ำโขง สามารถบรรเลงได้ 6 ถึง 9 ระดับเสียง ซึ่งระดับเสียงมีจำนวนแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมดนตรีของแต่ละแห่ง ขนาดของปี่มีความสัมพันธ์กับโทนของเสียง คือ ปี่เลาใหญ่โทนเสียงต่ำแหบโหย ปี่ขนาดกลางรองลงมามีเสียงนุ่มนวลอ่อนหวาน ปี่เลาเล็กโทนเสียงสูง ให้เสียงสว่างสดใส ส่วนโครงสร้างระบบเสียงปี่ มีความสอดคล้องกับ บันไดเสียง 2 ชนิดได้แก่ 1) เพนทาโทนิค และ 2) ดอเรียนโหมด และ ด้านการศึกษาความสัมพันธ์ในการบรรเลง ปี่ ลุ่มน้ำโขง ปรากฏ 3 รูปแบบ คือ 1) ใช้บรรเลงเพื่อความบันเทิง 2) ใช้บรรเลงเพื่อเกี้ยวพาราสี และ 3) ใช้บรรเลงเพื่อประกอบทางพิธีกรรม
เอกสารอ้างอิง
กฤษฏิ์ เลกะกุล. (2552). การศึกษาระบบเสียงและคุณลักษณะทางเสียงของปี่ใน. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหิดล, กรุงเทพฯ.
ธิกานต์ ศรีนารา และพิเชษฐ์ เดชผิว. (2548). วัฒนธรรมดนตรีในสังคมไทย. กรุงเทพฯ: แม็ค.
สุรพล เนสุสินธุ์. (2555). แคนของกลุ่มชาติพันธ์ไตในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง: แหล่งกำเนิดการแพร่กระจาย และแนวทางการสืบทอดและพัฒนา (วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาสารคาม.
อานันท์ นาคคง. (2556). เครือญาติดนตรีวิถีอาเซียน. กรุงเทพฯ: หอศิลปวัฒนธรรม.
ผู้ให้สัมภาษณ์
ท้าวคำสวน วงทองคำ. (2562, 18 พฤษภาคม). ผู้อำนวยการสโมสรศิลปวัฒนธรรมด่านช้างเมืองเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. [สัมภาษณ์].
ท้าวเพชร เสด็จจัน. (2561, 30 พฤศจิกายน). นักดนตรีพื้นบ้าน เมืองชะนะคาม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. [สัมภาษณ์].
สม ไชยแก้ว. (2561, 13 ธันวาคม). นักดนตรีและช่างทำปี่จุม จังหวัดเชียงราย. [สัมภาษณ์].
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ข้อความที่ปรากฎในวารสารฉบับนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนแต่ละท่าน สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย และกองบรรณาธิการ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ
สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ขอให้ผู้อ่านอ้างอิงในกรณีที่ท่านคัดลอกเนื้อหาบทความในวารสารฉบับนี้