แรงจูงใจต่อการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา ของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย

บทคัดย่อ

งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา และ 2) แรงจูงใจที่มีต่อการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย จำนวน 257 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถาม ทำการวิเคราะห์ข้อมูลร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยครั้งนี้ พบว่า ผลการวิจัยครั้งนี้ พบว่า 1) ระดับการมีส่วนร่วมในงานประกันคุณภาพการศึกษาภาพรวมค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (=3.66, S.D. = 0.68) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การมีส่วนร่วมในการตรวจสอบผลการดำเนินงาน (=3.75, S.D. = 0.69) รองลงมาคือ การมีส่วนร่วมในการปรับปรุงผลการดำเนินงาน (=3.75, S.D. = 0.69) และประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ การมีส่วนร่วมในการวางแผน (=3.58, S.D. = 0.64) และ 2) บุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย มีแรงจูงใจที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมในงานประกันคุณภาพการศึกษา ในระดับเห็นด้วย (=3.66, S.D. = 0.70) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า แรงจูงใจที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมในงานประกันคุณภาพการศึกษามากที่สุดได้แก่ งานประจำของหน่วยงาน มีความสำเร็จ บรรลุตามเป้าหมาย (=3.87, S.D. = 0.60) รองลงมา คือ ผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงาน ยอมรับในความรู้ความสามารถของท่าน มีการยกย่องชมเชย และการยอมรับนับถือ (=3.63, S.D. = 0.70) และแรงจูงใจส่งผลต่อการมีส่วนร่วมในงานประกันคุณภาพการศึกษาในระดับต่ำสุด ซึ่งอยู่ในระดับเฉยๆ คือ ได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งตามความรู้ความสามารถ อย่างเป็นธรรม และได้รับการสนับสนุนให้มีการพัฒนาความรู้ความสามารถ เช่น การศึกษาต่อฝึกอบรม สัมมนา (=3.25, S.D. = 0.97)