ความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มีต่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ตามเส้นทางผ้าไทย ในจังหวัดเลย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มีต่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามเส้นทางผ้าไทยในจังหวัดเลย เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยเก็บแบบสอบถามทั้งทางออนไลน์และในพื้นที่วิจัยทั้ง 4 พื้นที่ได้แก่ 1) กลุ่ม   ผ้าทอพื้นเมืองไทเลย บ้านก้างปลา  2) กลุ่มทอผ้าฝ้ายบ้านกกบก 3) กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านสูบ และ 4) แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาคนเชียงคานผ้าทอ เฮือนอ้ายเอ้ม จำนวน 432 ตัวอย่าง  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 51.16 มีอายุในช่วง 20-30 ปี คิดเป็นร้อยละ 75.00  สถานภาพโสด คิดเป็นร้อยละ 91.90 มีอาชีพเป็นนักเรียน/นักศึกษา คิดเป็นร้อยละ 63.19 ระดับการศึกษาปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 73.15  มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 62.96  ความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มีต่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ตามเส้นทางผ้าไทยในจังหวัดเลย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีต้องการด้านสิ่งดึงดูดใจในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.40, S.D. = 0.52) รองลงมา คือ ที่พักแรม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.35, S.D. = 0.62) กิจกรรม การท่องเที่ยว อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.32, S.D. = 0.68) สิ่งอำนวยความสะดวก อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.28, S.D. = 0.59) และการเข้าถึง อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.25, S.D. = 0.61) ตามลำดับ และยังพบว่า ปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยว มีความสนใจต่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ได้แก่ ชุมชนมีบรรยากาศดีและธรรมชาติที่สวยงาม ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนชุมชน ความเป็นเอกลักษณ์ที่มีเฉพาะถิ่น เช่น ภาษาพูดของบุคลากรในชุมชน มีกิจกรรมต่างๆ ที่สะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่น