การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องคำซ้อน โดยใช้ชุดแบบฝึกชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนาดูนประชาสรรพ์
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง คำซ้อน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนาดูนประชาสรรพ์ ที่เรียนโดยใช้ชุดแบบฝึกกับเกณฑ์ร้อยละ 75 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง คำซ้อน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนาดูนประชาสรรพ์ ที่เรียนโดยใช้ชุดแบบฝึกระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนและ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนาดูนประชาสรรพ์ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง คำซ้อน โดยใช้ชุดแบบฝึกกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนนาดูนประชาสรรพ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 33 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่มเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องคำซ้อน จำนวน 3 แผน 2) ชุดแบบฝึกเรื่องคำซ้อน จำนวน 3 ชุด 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องคำซ้อน20 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 5 ข้อสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบทีสำหรับกลุ่มเดียวและกลุ่มไม่อิสระผลการวิจัยพบว่า
1. นักเรียนมีผลลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องคำซ้อนสูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 75อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องคำซ้อนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่องคำซ้อนโดยใช้ชุดแบบฝึก โดยรวมอยู่ในระดับมาก
Article Details
1. บทความที่ลงตีพิมพ์ทุกเรื่องได้รับการตรวจทางวิชาการโดยผู้ประเมินอิสระ
2. ข้อคิดเห็นใด ๆ ของบทคามที่ลงตีพิมพ์ในวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาทม นี้เป็นของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
3. กองบรรณาธิการวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาทม ไม่สงวนสิทธิ์การคัดลอกแต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา
References
Ministry of Education. (2008).The Core Curriculum Foundation, B.E. 2551.
SasithornThanlaksananan. (1999). Thai language teaching behavior in Secondary School.
PaisarnWorakham. (2016). Educational Research. Mahasarakham: Taksila Printing.
PhisutthaArirat. (2008). Educational software development.Mahasarakham: Apichat Printing.
PanisaraSumnangyen. (2012). Development of writing skills that haveThai spelling section Using a practice model for Grade 3 students at Ban Doi Chang School, Chiang Rai Primary Educational Service Area Office Area 2. Master of Arts Thesis,Chiang Rai Rajabhat University.
Sawai Prapasri. (2010). Supervision document: for DesignLearning activities,Mahasarakham: aha Sarakham Municipality Education Division.
Boonsong Sopakarn. (2012). Development of spelling skills of grade 2students using a skill exerciselearning strand of Thai language. Master of Education Thesis,Rajabhat MahaSarakhamUniversity.
ChatladaPunnakhan. (2005). Development of planning activitiesIntegrated learning about Thai songs learning strand of ArtPratomSuksa 4. Master of Education Thesis, Mahasarakham University.
KanitthungPhattasing. (2012). Development of a set of learning activities in“Word Creating”learning strand of Thai Language for MathayomSuksa1. Master's Thesis, Thepsatri Rajabhat University.