การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ให้ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 และ (2) เพื่อพัฒนาพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ให้ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 กลุ่มเป้าหมายในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านนาโป่ง อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 8 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ (3) แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า (1) การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในวงจรปฏิบัติการที่ 1 นักเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 11.38 จากคะแนนเต็ม 15 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 75.84 เมื่อพิจารณารายบุคคล มีนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 จำนวน 5 คน และมีนักเรียนที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์จำนวน 3 คน และในวงจรปฏิบัติการที่ 2 ผู้วิจัยได้ใช้เทคนิคแผนผังความคิดร่วมกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ทุกคน โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 12.25 จากคะแนนเต็ม 15 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 80.83 และ (2) ผลการพัฒนาพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในวงจรปฏิบัติการที่ 1 นักเรียนมีพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม อยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 44.00 เมื่อพิจารณาพฤติกรรมการทำงานกลุ่มเป็นรายด้านทั้ง 5 ด้าน ไม่ผ่านตามเกณฑ์การพัฒนาพฤติกรรมการทำงานกลุ่มร้อยละ 70 และในวงจรปฏิบัติการที่ 2 ได้ใช้เทคนิคแผนผังความคิดร่วมกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ และมีการสลับบทบาทหน้าที่ในกลุ่ม ส่งผลให้นักเรียนทุกคนมีการพัฒนาพฤติกรรมการทำงานกลุ่มผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ครบทุกด้าน โดยมีพฤติกรรมการทำงานกลุ่มอยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ย 11.60 จากคะแนนเต็ม 15 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 77.33
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความที่ลงตีพิมพ์ทุกเรื่องได้รับการตรวจทางวิชาการโดยผู้ประเมินอิสระ ผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) สาขาที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 3 ท่าน ในรูปแบบ Double blind review
2. ข้อคิดเห็นใด ๆ ของบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม นี้เป็นของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
3. กองบรรณาธิการวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ไม่สงวนสิทธิ์การคัดลอกแต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพฯ: พริกหวาน กราฟิก.
ประสาท เนืองเฉลิม. (2560). วิจัยการเรียนการสอน (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ภัทรวดี ทองจินดา. (2554). ผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ร่วมกับการทำโครงงานต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะกระบวนการทำงานและกระบวนการกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน). สงขลา: มหาวิทยาลัยทักษิณ.
โรงเรียนบ้านนาโป่ง. (2564). รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา 2563. ยโสธร: โรงเรียนบ้านนาโป่ง.
Johnson, D. W. & Johnson, R. T. (1991). Learning Together and Alone: Cooperative, Competitive and Individualistic Learning. New Jersey: Prentice-Hall.
Salavin, R. E. (1987). Cooperative Learning and Cooperative School. Educational Leadership, 45(3), 7-13.