การรับรู้ความเสี่ยงและภาพลักษณ์ของประเทศไทย: ความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก่อนและหลังเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย Perception of Risks and Image of Thailand: International Tourists’ Opinions Before and After Traveling to Thailand
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยการรับรู้ความเสี่ยงของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 7 ด้าน คือ
ด้านสุขภาพ ด้านการขาดความมั่นคงทางการเมือง ด้านการก่อการร้าย ด้านความแตกต่างทางอาหาร ด้านความแตกต่างทางวัฒนธรรม
ด้านความเชื่อทางการเมืองและศาสนา และด้านอาชญากรรม ตลอดจนศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับปัจจัยการรับรู้
ความเสี่ยงก่อนและหลังเดินทางมาประเทศไทย และศึกษาความคิดเห็นต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยก่อนและหลังการเดินทางในส่วน
ความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ความปลอดภัย การขนส่งมวลชน ความมีนํ้าใจ ผู้วิจัยได้
ทำการค้นคว้ารวบรวมข้อมูลจากเอกสารและการวิจัยเชิงปริมาณ จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 385 ตัวอย่าง โดยการสุ่มแบบไม่เจาะจงด้วย
แบบสอบถาม และนำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติ ร้อยละ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test (Independent samples)
F-test (One-way ANOVA) โดยใช้ระดับนัยสำคัญที่ .05 ผลการศึกษาพบว่า
การรับรู้ความเสี่ยงของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับประเทศไทยก่อนและหลังเดินทางโดยภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับน้อย โดย
ด้านการก่อการร้ายอยู่ในระดับน้อยที่สุด เมื่อเปรียบเทียบก่อนกับหลังเดินทางโดยภาพรวมและรายด้านลดลงทุกด้าน ปัจจัยส่วนบุคคล
คือ เพศ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา และระดับการรับรู้ความเสี่ยง มีความสัมพันธ์กับปัจจัยการรับรู้ความเสี่ยงก่อนและหลังเดินทาง
และจำนวนครั้งที่มาท่องเที่ยวไทย และความตั้งใจจะเยือนซํ้า มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ความเสี่ยงก่อนเดินทาง ขณะที่ช่วงอายุสัมพันธ์
กับการรับรู้ความเสี่ยงหลังเดินทาง ด้านความคิดเห็นต่อภาพลักษณ์ไทยก่อนและหลังเดินทาง พบว่า ก่อนเดินทางโดยภาพรวมและราย
ด้านอยู่ในระดับดีมาก ด้านขนส่งมวลชน และความปลอดภัยอยู่ในระดับปานกลาง หากหลังเดินทางภาพรวมและรายด้านเพิ่มดีขึ้นทุกด้าน
ดังนั้น การประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในวงกว้าง เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จึงจำเป็นยิ่ง
This research aimed to investigate and compare the 7 factors regarding risks as perceived by
international tourists: health, political instability, terrorism, strange food, culture barriers, political and religious
dogma, and crime; to examine the relationship between personal factors and factors of perceived risks before
and after traveling to Thailand; and to investigate opinions of international tourists toward Thailand’s image
before and after traveling to Thailand regarding the 5 factors : tourism resources, tourism personnel, safety,public transportation, and Thai hospitality. Data were collected from documents and survey research of 385
samples by using a questionnaire, and then analyzed by using the SPSS for windows. The statistics used in
data analyses were percentage, frequency, mean, standard deviation, t-test, f-test and one-way ANOVA. The
level of significance was determined at the 0.05 level.
The result showed that the overall level of perceived risks before and after traveling to Thailand was
found at the low level, and so were the opinions regarding individual factors, which were also low, with the
terrorism factor found at a very low level. The comparisons of perceived risks before and after traveling to
Thailand showed that perception regarding all the factors decreased. Gender, marital status, level of education
and personal risk were correlated to the factors of perceived risks before and after traveling. While numbers
of visits to Thailand and revisit intention were correlated to the factors of perceived risks before traveling,
while age was correlated to the factors of perceived risk. The opinions on Thailand’s image before and after
traveling were at the high level regarding all the factors. Before traveling, factors such as public transportation
and safety were found at the moderate level. After traveling, however, perception regarding Thailand’s image
increased in all the factors.
Article Details
1. บทความที่ลงตีพิมพ์ทุกเรื่องได้รับการตรวจทางวิชาการโดยผู้ประเมินอิสระ ผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) สาขาที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 3 ท่าน ในรูปแบบ Double blind review
2. ข้อคิดเห็นใด ๆ ของบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม นี้เป็นของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
3. กองบรรณาธิการวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ไม่สงวนสิทธิ์การคัดลอกแต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา