การวิเคราะห์อิทธิพลของปัจจัยจูงใจ ปัจจัยสุขอนามัย การสื่อสารภายในองค์กร และวัฒนธรรมองค์กร ที่ส่งผลต่อแรงจูงใจของพนักงานภายในองค์การ An Analysis of The Influence of Motivator Factors, Hygiene Factors, Organizational Communication and Organizational Culture
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ ประการแรก ศึกษาปัจจัยจูงใจและปัจจัยสุขอนามัยที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการทำงาน
ประการที่สอง ศึกษาปัจจัยที่มีความเหมาะสมกับบริบทสังคมไทย หากมีการเพิ่มปัจจัยจูงใจและปัจจัยสุขอนามัยเพิ่มขึ้นทำให้ระดับแรง
จูงใจในการทำงานเป็นอย่างไร มีความขัดแย้งหรือสอดคล้องกับกรอบทฤษฎีสองปัจจัยที่นำมาใช้ในการศึกษามากน้อยเพียงใด
และประการที่สาม วิเคราะห์ปัจจัยที่เหมาะสมและใช้ผลได้ดีแล้วนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันขององค์กรได้
อย่างไร ที่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาภายในองค์กรต่อไป กลุ่มตัวอย่างเป็นนักวิศวกรและบัญชีผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบ
การ 636 แห่ง จำนวนทั้งสิ้น 395 คน โดยใช้แบบสอบถามการวิจัยแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ที่ผ่านการหาความเที่ยงตรง มี
ค่าอัตราส่วนความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา เท่ากับ 0.867 และความเชื่อมั่น โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค เท่ากับ 0.992 เป็น
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ เพื่อหาค่าเฉลี่ย ส่วน
เบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์ถดถอยแบบพหุแบบเพิ่มหรือลดตัวแปรเป็นขั้นๆ เพื่อทำการวิเคราะห์
อิทธิพลของปัจจัยจูงใจ ปัจจัยสุขอนามัย การสื่อสารภายในองค์กร และวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งผลต่อแรงจูงใจของพนักงานในองค์การ
ผลการวิจัย พบว่า
ประการที่สอง ศึกษาปัจจัยที่มีความเหมาะสมกับบริบทสังคมไทย หากมีการเพิ่มปัจจัยจูงใจและปัจจัยสุขอนามัยเพิ่มขึ้นทำให้ระดับแรง
จูงใจในการทำงานเป็นอย่างไร มีความขัดแย้งหรือสอดคล้องกับกรอบทฤษฎีสองปัจจัยที่นำมาใช้ในการศึกษามากน้อยเพียงใด
และประการที่สาม วิเคราะห์ปัจจัยที่เหมาะสมและใช้ผลได้ดีแล้วนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันขององค์กรได้
อย่างไร ที่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาภายในองค์กรต่อไป กลุ่มตัวอย่างเป็นนักวิศวกรและบัญชีผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบ
การ 636 แห่ง จำนวนทั้งสิ้น 395 คน โดยใช้แบบสอบถามการวิจัยแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ที่ผ่านการหาความเที่ยงตรง มี
ค่าอัตราส่วนความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา เท่ากับ 0.867 และความเชื่อมั่น โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค เท่ากับ 0.992 เป็น
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ เพื่อหาค่าเฉลี่ย ส่วน
เบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์ถดถอยแบบพหุแบบเพิ่มหรือลดตัวแปรเป็นขั้นๆ เพื่อทำการวิเคราะห์
อิทธิพลของปัจจัยจูงใจ ปัจจัยสุขอนามัย การสื่อสารภายในองค์กร และวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งผลต่อแรงจูงใจของพนักงานในองค์การ
ผลการวิจัย พบว่า
Article Details
บท
บทความวิจัย
1. บทความที่ลงตีพิมพ์ทุกเรื่องได้รับการตรวจทางวิชาการโดยผู้ประเมินอิสระ ผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) สาขาที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 3 ท่าน ในรูปแบบ Double blind review
2. ข้อคิดเห็นใด ๆ ของบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม นี้เป็นของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
3. กองบรรณาธิการวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ไม่สงวนสิทธิ์การคัดลอกแต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา