โมเดลการวัดสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูสุขศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา

ผู้แต่ง

  • ชยพล ธงภักดี คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
  • จักรพงษ์ พร่องพรมราช สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา

คำสำคัญ:

โมเดลการวัด, สมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน, ครูสุขศึกษา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาระดับสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูสุขศึกษา ในจังหวัดนครราชสีมา และ 2) ตรวจสอบโมเดลการวัดสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูสุขศึกษาในจังหวัดนครราชสีมาที่พัฒนาขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์ กลุ่มตัวอย่างการวิจัย คือ ครูสุขศึกษาที่สอนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ในจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 300 คน โดยใช้วิธีสุ่มแบบโควตา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวัดสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูสุขศึกษามีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.67-1.00 มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.38-0.78 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.96 การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่  ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน

ผลการวิจัย พบว่า 1) ระดับสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูสุขศึกษา ในจังหวัดนครราชสีมา โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (equation = 4.21, S.D. = 0.38) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านการเข้าใจตนเอง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (equation = 4.23, S.D. = 0.55) รองลงมา ด้านการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (equation = 4.21, S.D. = 0.53) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ด้านการรู้คิด มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (equation = 4.18, S.D. = 0.42) ตามลำดับ และ 2) โมเดลการวัดสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูสุขศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์พิจารณาได้จากค่า : equation2 = 2.54, df = 6, p = 0.952, equation2/ df = 0.42 GFI = 1.00, AGFI = 0.99, RMSER = 0.00 และ RMR = 0.00

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2559). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2560. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

จินตนา บันลือศักดิ์. (2558). บทบาทของครูสุขศึกษากับกระบวนการจัดการเรียนรู้และใช้สื่อ. วารสารครุศาสตร์, 43(4), 129-145.

จินตนา สรายุทธพิทักษ์. (2565). การจัดการเรียนรู้สุขศึกษาในศตวรรษที่ 21. สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ชูชัย สมิทธิไกร. (2556). การสรรหา การคัดเลือก และการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากร. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

เทอดทูน ไทศรีวิชัย และวรภัทร์ ภู่เจริญ (2562). หัวใจแห่งการโค้ช: The WHY of Coaching. โค้ชไทย คอร์ปอเรชั่น.

ธนวัฒน์ ศรีไพโรจน์. (2561). อิทธิพลของโปรแกรมการโค้ชการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานที่มีต่อสมรรถนะของครูผู้สอนเพื่อทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมของผู้เรียน [ปริญญานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

พรรณี ลีกิจวัฒนะ. (2557). วิธีการวิจัยทางการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 10). คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.

วิจารณ์ พานิช. (2557). การสร้างการเรียนรู้สู่ศตวรรษที่ 21 (พิมพ์ครั้งที่ 2). มูลนิธิสยามกัมมาจล.

สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์. (2557). สร้างชุดความรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ของเด็กและเยาชน: จากประสบการณ์ความสำเร็จของโรงเรียนไทย [รายงานการวิจัย]. สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สุคนธ์ สินธพานนท์. (2558). การจัดการเรียนรู้ของครูยุคใหม่เพื่อพัฒนาทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21. 9119 เทคนิคพริ้นติ้ง.

เสาวลักษณ์ วรครบุรี. (2559). โปรแกรมพัฒนาการเรียนรู้ที่ยึดโครงงานเป็นฐานสำหรับห้องเรียนศตวรรษที่ 21 ในโรงเรียนประถมศึกษาขนาดใหญ่ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กระทรวงศึกษาธิการ.

อนุวัติ คูณแก้ว. (2558). การวัดผลและประเมินผลการศึกษาแนวใหม่. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

เอมอัชฌา วัฒนาบุรานนท์. (2557). สวัสดิศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 3). โอเดียนสโตร์.

Byrne, B. M. (2001). Structural Equation Modeling with AMOS, EQS, and LISREL: Comparative Approaches to Testing for the Factorial Validity of a Measuring Instrument. International Journal of Testing, 1(1), 55-86.

Hair. J. F., Black, W. C., Babin, B. J. & Anderson, R. E. (2010). Multivariate Date Analysis (7th ed.). Person Education.

Hooper, D., Coughlan, J. & Mullen, M. (2008). Structural Equation Modelling: Guidelines for Determining Model Fit. Electronic Journal of Business Research Methods, 6(1), 53-60. https://doi.org/10.21427/D7CF7R

Hu, L. T. & Bentler, P. M. (1999). Cutoff Criteria for Fit Indexes in Covariance Structure Analysis: Conventional Criteria Versus New Alternatives. Structural Equation Modeling, 6(1), 1–55. http://dx.doi.org/10.1080/10705519909540118

Jöreskog, K. G., Olsson, U. H. & Wallentin, F. Y. (2016). Multivariate Analysis with LISREL. Springer.

Katz, L. G. & Chard, S. D. (1992). The Project Approach. Merill.

Kurniawati. (2021). Competence and Perceived Benefits in Project-Based Learning for Postgraduate Students in History Education. JTP-Jurnal Teknologi Pendidikan, 23(3), 307-320.

Steven, J. P. (2009). Applied Multivariate Statistics for the Social Sciences. Routledge.

Wolfe, R. E. & Poon, J. D. (2015). Educator Competencies for Personalized, Learner-Centered Teaching. Jobs for the Future.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-04

รูปแบบการอ้างอิง

ธงภักดี ช., & พร่องพรมราช จ. (2025). โมเดลการวัดสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูสุขศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา . สิกขา วารสารศึกษาศาสตร์, 12(1), 51–64. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/sikkha/article/view/268745

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย
Share |