แนวทางในการส่งเสริมการตลาดดิจิทัล ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดอุดรธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) วิเคราะห์ปัจจัยด้านการตลาดดิจิทัลที่มีอิทธิพลต่อความสามารถทางการแข่งขันของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และ (2) เสนอแนะแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการตลาดดิจิทัลให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดอุดรธานี การวิจัยใช้ระเบียบวิธีเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 341 ราย ใช้การสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน โดยใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยด้านการตลาดดิจิทัลของวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดอุดรธานีโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยด้านที่ได้รับความคิดเห็นสูงสุด ได้แก่ การตลาดประชาสัมพันธ์ออนไลน์ สังคมออนไลน์ และการตลาดเชิงเนื้อหา ทั้งนี้ปัจจัยด้านการตลาดดิจิทัลทั้ง 5 ด้านสามารถอธิบายความสามารถทางการแข่งขันของวิสาหกิจชุมชนได้ในระดับแตกต่างกัน โดยเฉพาะด้าน การตลาดประชาสัมพันธ์ออนไลน์ ซึ่งเป็นตัวแปรที่มีอิทธิพลสูงที่สุดในทุกมิติของความสามารถทางการแข่งขัน รองลงมาคือ ด้านการตลาดเชิงเนื้อหา ที่มีอิทธิพลในบางมิติ นอกจากนี้ด้าน สังคมออนไลน์ ยังมีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญต่อมิติ ด้านผลตอบแทนที่ ขณะที่ด้านการตลาดบนเว็บไซต์และด้านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ไม่พบความมีนัยสำคัญในหลายมิติ ซึ่งอาจเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เต็มศักยภาพหรือไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในพื้นที่ จากผลการศึกษา ผู้วิจัยเสนอแนวทางการพัฒนาการตลาดดิจิทัล ได้แก่ การพัฒนาแพลตฟอร์มประชาสัมพันธ์และตลาดออนไลน์ระดับชุมชน การจัดอบรมด้านการสร้างคอนเทนต์และทักษะการใช้สื่อสังคมออนไลน์เชิงกลยุทธ์ การส่งเสริมระบบสั่งซื้อออนไลน์มาตรฐาน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและจุดบริการอินเทอร์เน็ตในชุมชน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดและเสริมสร้างขีดความสามารถการแข่งขันของวิสาหกิจชุมชนในยุคดิจิทัล
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กัญญามน อินหว่าง และคณะ. (2554). การจัดการวิสาหกิจชุมชน. (พิมพ์ครั้งที่ 1). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยพิษณุโลก
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. (2567). Thailand Digital Outlook 2567. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2568. สืบค้นจาก https://www.mdes.go.th/
กองส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน. (2567). สรุปจำนวนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนที่อนุมัติการจดทะเบียนแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567). ใน รายงานผลสัมมนาพัฒนาแนวทางการสร้างเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ครั้งที่ 2/2567. กรมส่งเสริมการเกษตร. สืบค้นจาก sceb.doae.go.th
กัญญารัตน์ นิ่มตระกูล และสุภาวดี สายสนิท (2566). การตลาดดิจิทัลที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าชุมชนของผู้บริโภคผ่านช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์. วารสารศิลปการจัดการ, 7(3), 1225 - 1247.
กุณฑลี รื่นรมย์. (2561).การกำหนดปัญหางานวิจัยด้านการตลาดดิจิทัลสำหรับประเทศไทยในอนาคต. จุฬาลงกรณ์ธุรกิจปริทัศน์, 40(157), 100-140.
เบญริสา ตันเจริญ (2567).การพัฒนาช่องทางการตลาดดิจิทัลของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่บ้านเกษตรกรสวนเก้าแสน ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ. วารสารบริหารธุรกิจศรีนครินทรวิโรฒ : Srinakharinwirot Business Journal, 15(1), 30–47.
อโณทัย งามวิชัยกิจ. (2563). การตลาดดิจิทัล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ 789 ดิจิตอลเพรส.
Kaur. (2017). The importance of digital marketing in tourism industry. International Journal of Research – GRANTHAALAYAH, 5(6), 72-77.
Taro Yamane. (1973). Statistics: an introductory analysis. New York: New York: Harper & Row.
Tongdhamachart, N., & Niyomsilpa, S. (2022). Mediating Effect of Digital Marketing Capability on Marketing Effectiveness of Community Enterprises in Nakhon Pathom Province,Thailand. Jurnal
Komunikasi: Malaysian Journal of Communication, 38(1), 201-220.
Tran, T. T. S. (2024). Digital marketing in community-based enterprises. Journal of Asian Finance, Economics and Business, 10(4), 1-15.