การศึกษาพฤติกรรมความซื่อสัตย์ของเด็กปฐมวัยโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ PRISA
Main Article Content
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้ เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ PRISA เพื่อส่งเสริมความซื่อสัตย์ของเด็กปฐมวัย กระบวนการวิจัยมี 3 ระยะ คือ 1. การสร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ PRISA 2. การทดสอบประสิทธิผลของรูปแบบ โดยแบบแผนการทดลองใช้แบบ One Group Pretest-Protest Design กับกลุ่มตัวอย่าง คือ เด็กปฐมวัยอายุ 5-6 ปี ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนวัดหลวงวิทยา อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 15 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ PRISA แผนการจัดประสบการณ์ และ แบบวัดพฤติกรรมความซื่อสัตย์ของเด็กปฐมวัย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test แบบ Dependent Sample และ 3. การเผยแพร่ขยายผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบ PRISA โดยให้ครูปฐมวัยที่ปฎิบัติงานด้านการสอนเด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จังหวัดลำปาง จำนวน 6 คน ใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ และประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ จากนั้นผู้วิจัยนำข้อมูลที่ได้รับไปวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผลความคิดเห็นของครูปฐมวัย ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้ 1) ผลการหาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ PRISA เพื่อส่งเสริมความซื่อสัตย์ของเด็กปฐมวัย พบว่า หลังการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ PRISA กลุ่มทดลองมีความซื่อสัตย์สูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 2) ครูปฐมวัยมีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ PRISA เพื่อส่งเสริมความซื่อสัตย์ของ เด็กปฐมวัย อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.83 – 5.00 แสดงว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้มีความเหมาะสมสามารถนำไปใช้ส่งเสริมความซื่อสัตย์ได้
Article Details
Section
-
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร สักทอง : วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลับราชภัฏกำแพงเพชร
ข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในวารสารเป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะ ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรและบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย