การเปรียบเทียบทักษะการฟัง และการพูดภาษาอังกฤษและ ความพึงพอใจต่อการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือตามเทคนิค STAD กับกิจกรรมการเรียนตามคู่มือครู
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือตามเทคนิค STAD กับกิจกรรมการเรียนตามคู่มือครู 2) เปรียบเทียบความพึงพอใจต่อวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือตามเทคนิค STAD กับกิจกรรมการเรียนตามคู่มือครู กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนโคกกระเทียมวิทยาลัย จำนวน 72 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบกิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือตามเทคนิค STAD 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบกิจกรรมการเรียนตามคู่มือครู 3) แบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือตามเทคนิค STAD 4) แบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนตามคู่มือครู การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และสถิติทดสอบที (T-test)
ผลการวิจัยพบว่า 1) คะแนนผลสัมฤทธิ์ของทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือตามเทคนิค STAD สูงกว่ากิจกรรมการเรียนตามคู่มือครูอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 2) ความพึงพอใจต่อวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือตามเทคนิค STAD สูงกว่ากิจกรรมการเรียนตามคู่มือครูอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
คำสำคัญ : STAD, ทักษะการฟัง, ทักษะการพูด, การเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1
ABSTRACT
The purposes of this research were to 1) compare English listening and speaking skills of Matayomsuksa 1 students taught with STAD cooperative learning activities and learning activities from the teacher’s handbook, 2) compare satisfaction for learning English of Matayomsuksa 1 students taught with STAD cooperative learning activities and learning activities with the teacher’s handbook. The instruments used consisted of 1) Lesson plans using STAD cooperative learning activities, 2) Lesson plans using learning activities with the teacher’s handbook, 3) English listening and speaking evaluation criterion, 4) A satisfaction evaluation form for learning English of Matayomsuksa 1 students taught by STAD cooperative learning activities, and 5) A satisfaction evaluation form for learning English of Matayomsuksa 1 students taught by the activities from the teacher’s handbook. The data was analyzed to calculate mean (), standard deviation (S.D.), and t-test. The findings indicated that 1) The listening and speaking achievement scores of Mattayomsuksa 1 taught by the STAD cooperative learning activities were higher than those taught by learning activities from the teacher’s handbook. 2) Satisfaction for learning English of Matayomsuksa 1 students taught with STAD cooperative learning activities is lofty more than students taught learning activities from the teacher’s handbook.
Key Words : STAD, Listening Skill, Speaking Skill, Learning English of Matayomsuksa 1Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร สักทอง : วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลับราชภัฏกำแพงเพชร
ข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในวารสารเป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะ ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรและบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย