รูปแบบการลงนิคหกรรมตามพระธรรมวินัยและความรับผิดตามกฎหมายไทย

Main Article Content

ชนนสรณ์พงศ์ จรูญชาติ

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษารูปแบบและวิธีปฏิบัติการลงนิคหกรรมตามพระธรรมวินัยในคัมภีร์พระพุทธศาสนาและกฎหมายไทย 2) เพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหาการลงนิคหกรรมตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕และประมวลกฎหมายไทยว่าด้วยความรับผิด และ3) เพื่อเสนอรูปแบบการลงนิคหกรรมตามพระธรรมวินัยและความรับผิดตามกฎหมายไทย งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 18 รูป/คน และศึกษาวิจัยเชิงเอกสารเพื่อหาหลักพุทธธรรมที่เหมาะสมมาบูรณาการเพื่อให้เกิดรูปแบบการลงนิคหกรรมตามพระธรรมวินัยและความรับผิดตามกฎหมายไทย วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาและนำเสนอในรูปแบบการพรรณนาวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า
1) การลงนิคหกรรมตามพระวินัยปิฎก เป็นการลงนิคหกรรมที่พระผู้มีพระภาค ทรงอนุญาตและวางแนวทางไว้ให้แก่คณะสงฆ์เมื่อเกิดมีอธิกรณ์เกิดขึ้น พระองค์ทรงกําหนดแนวทางให้ภิกษุสงฆ์ได้ปฏิบัติ (อธิกรณสมถะ 7) เพื่อพิจารณาวินิจฉัยวินิจฉัยการลงนิคหกรรม เพื่อให้ภิกษุผู้ถูกกล่าวหาได้พิสูจน์ความบริสุทธิของตน ทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย และการให้โอกาสสำนึกตนเพื่อกลับเข้าหมู่สงฆ์ต่อไป ส่วนการลงนิคหกรรมตามกฎหมายไทย เป็นกระบวนการที่เน้นพิสูจน์ข้อเท็จจริง และมีสภาพบังคับให้ต้องจำคุก หากภิกษุไม่ยอมรับคำตัดสิน โดยสงฆ์ไม่มีส่วนร่วมในการพิจารณา
2) ปัญหาและอุปสรรคของกระบวนการลงนิคหกรรมในปัจจุบัน คือ (1) ปัญหาความรู้ตามพระธรรมวินัย (2) ปัญหาเชิงโครงสร้างตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (3) ปัญหาเชิงตัวบทกฎหมายและการตีความ และ(4) ปัญหากระบวนการและขั้นตอนในการปฏิบัติ
1) รูปแบบการลงนิคหกรรมตามพระธรรมวินัยและความรับผิดตามกฎหมายไทย ได้องค์ความรู้เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา คือ MODEL VLCP ภายใต้หลักการ 4 ข้อ ดังนี้ (1) พระวินัย(Vinaya) การนำหลักพระวินัยมาเป็นข้อพิจารณาวินิจฉัยที่สำคัญ (2) กฎหมายไทย(Thai Law) ต้องดำเนินการพิจารณาวินิจฉัยลงนิคหกรรมให้มีความสอดคล้องกับพระธรรมวินัย (3) ความร่วมมือ(Cooperation) คือ ฝ่ายพุทธจักร และฝ่ายอาณาจักร ร่วมกันแก้ปัญหาและเสนอทางออกอย่างสมบูรณ์และรอบคอบ และ (4) กระบวนการ(Process) คือ การดำเนินการลงนิคหกรรมตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย โดยไม่ขัดต่อหลักกฎหมายไทย ตั้งแต่มีผู้แจ้งความร้องทุกข์ จนกระทั่งคดีสิ้นสุด เพื่อให้เกิดความถูกต้อง ยุติธรรม และเกิดประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย


 

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
จรูญชาติ ช. (2023). รูปแบบการลงนิคหกรรมตามพระธรรมวินัยและความรับผิดตามกฎหมายไทย. วารสารพุทธนวัตกรรมปริทรรศน์, 4(3), 119–133. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/JBIR/article/view/268400
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

หนังสือ

กรมการศาสนา. (2559). คู่มือพระสังฆาธิการ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.

คณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2559). พระพุทธศาสนากับการเมืองการปกครอง. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ปวริศร เลิศธรรมเวที, (2564). สิทธิทางรัฐธรรมนูญ (Constitutional Rights). พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์นิติธรรม.

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2560). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2560). นิติศาสตร์แนวพุทธ. พิมพ์ครั้งที่ 20. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์เดือนตุลา.

สื่ออิเล็กทรอนิกส์

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://web.krisdika.go.th. (วันที่สืบค้น 6 กรกฎาคม 2565).

อัมรินทร์ทีวี. ภาวนาพุทโธ คัมแบ็ก! ผุดฉายาพ่อมังกรห่มสีรุ้ง อึ้งสงฆ์แห่ไหว้ พศ.ยันไม่ผิด. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.amarintv.com (วันที่สืบค้น 25 กันยายน 2565).

Pew Research Center. Young adults around the world are less religious by several measures. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.pewresearch.org. (วันที่สืบค้น 6 กรกฎาคม 2565).