การพัฒนาตัวชี้วัดทักษะชุมชนของนิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา

Main Article Content

นรินธน์ นนทมาลย์
อาภาพรรณ ประทุมไทย
นริศรา เสือคล้าย
วรรณากร พรประเสริฐ
วัชระ แลน้อย
น้ำเงิน จันทรมณี
ณัฐพงษ์ พรมวงษ์
ชลธิดา เทพหินลัพ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้  มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาตัวชี้วัดทักษะชุมชน 2) ตรวจสอบความเหมาะสมของตัวชี้วัดทักษะชุมชน และ 3) วิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของโมเดลการวัดทักษะชุมชน โดยมีขั้นตอนในการดำเนินการวิจัย 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 ศึกษาตัวชี้วัดทักษะชุมชน ตัวอย่างการวิจัยคือ อาจารย์ผู้รับผิดชอบ อาจารย์ประจำหลักสูตร ระดับปริญญาตรี และอาจารย์ผู้รับผิดชอบหมวดวิชาศึกษาทั่วไป จำนวน 227 คน คณะกรรมการบริหารหมวดวิชาศึกษาทั่วไป จำนวน 24 คน และ คณะกรรมการดำเนินงานหมวดวิชาศึกษาทั่วไป จำนวน 31 คน เก็บข้อมูลโดยใช้วิธีการระดมสมอง และวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ตอนที่ 2 ตรวจสอบความเหมาะสมของตัวชี้วัดทักษะชุมชน ตัวอย่างการวิจัยคือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน เครื่องมือวิจัย คือ แบบประเมินความเหมาะสมของตัวชี้วัดทักษะชุมชน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์มัธยฐาน และค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ และตอนที่ 3 วิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของโมเดลการวัดทักษะชุมชน ตัวอย่างการวิจัยคือ นิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา ที่เรียนรายวิชาศึกษาทั่วไป ในปีการศึกษา 2566 จำนวน 860 คน โดยทำการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) เครื่องมือวิจัย คือ แบบประเมินทักษะชุมชน มีค่าความเที่ยง (Reliability) เท่ากับ 0.978 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันอันดับ 2 ผลการวิจัยพบว่า
1) ตัวชี้วัดทักษะชุมชนของนิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา มีจำนวน 4 องค์ประกอบคือ ทักษะการประเมินความต้องการจำเป็นของชุมชน ทักษะการคิดเชิงออกแบบ ทักษะการจัดการโครงการ และทักษะการพัฒนาชุมชนโดยใช้ทรัพยากรชุมชนเป็นฐาน 2) ตัวชี้วัดทักษะชุมชนของนิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา มีจำนวน 4 องค์ประกอบ 17 ตัวชี้วัด เมื่อทำการพิจารณาความเหมาะสมของตัวชี้วัด พบว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ทั้ง 17 ตัวชี้วัด และ 3) โมเดลการวัดทักษะชุมชนของนิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (Chi-square=105.845, df = 89, ค่า p-value = 0.1075, RMSEA = 0.015, CFI = 0.998 และ SRMR = 0.014) และมีความตรงเชิงโครงสร้าง โดยที่ค่าน้ำหนักองค์ประกอบมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกตัวชี้วัด

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
นนทมาลย์ น., ประทุมไทย อ., เสือคล้าย น., พรประเสริฐ ว., แลน้อย ว., จันทรมณี น., พรมวงษ์ ณ., & เทพหินลัพ ช. (2024). การพัฒนาตัวชี้วัดทักษะชุมชนของนิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา. วารสาร มจร กาญจนปริทรรศน์, 4(3), 415–429. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/Kanchana-editor/article/view/274244
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กล้า ทองขาว. (2561). การจัดการศึกษาฐานชุมชน. สืบค้นเมื่อ 4 กันยายน 2566, จาก www.dpu.ac.th/ces/ download.php?filename=1377584927.docx

ดิษยุทธ์ บัวจูม และคณะ. (2557). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อสร้างความสนใจและทักษะในอาชีพท้องถิ่นของนักเรียนโรงเรียนบ้านพะแนงวิทยา. วารสารพฤติกรรมศาสตร์, 2(20), 18 - 36.

นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2542). โมเดลลิสเรล: สถิติวิเคราะห์สำหรับการวิจัย. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พรรณงาม ใจรักษ์ศักดิ์. (2561). เปิดประเด็น: นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงบูรณาการนอกห้องเรียน: เปิดห้องเรียนสู่แหล่งเรียนรู้. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 46(3), 436–455.

ยืน ภู่วรวรรณ. (2564). ชีวิตวิถีใหม่และความฉลาดทางดิจิทัล. สืบค้นเมื่อ 4 กันยายน 2566, จาก http://smtat.org/news/842/

วิจารณ์ พานิช. (2557). นวัตกรรมสู่การเป็นประเทศแห่งการศึกษา. สืบค้นเมื่อ 4 กันยายน 2566, จาก https://www.gotoknow.org/posts/565909

ศรีวรรณ ฉัตรสุริยวงศ์ และมาเรียม นิลพันธุ์. (2559). กระบวนทัศน์การจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 8(1), 183-197.

ไหมไทย ไชยพันธุ์. (2559). การศึกษาความรู้ ทัศนคติ และประสบการณ์ในกิจกรรมแนะแนวในโรงเรียนของนักศึกษาคณะครุศาสตร์ที่ผ่านการทำกิจกรรมแนะแนวและระบบดูแล ช่วยเหลือนักเรียนนอกห้องเรียน. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 18(30), 45-63.

อรนุช ลิมตศิริ. (2560). การศึกษานอกห้องเรียนเพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. วารสารวิชาการ ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ, 10(3), 1643-1658.

อรนุช ลิมตศิริ. (2563). การจัดกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียนสำหรับเด็ก. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ:มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

Bedri, Z., de Frein, R. & Dowling, G. (2017). Community-based learning: A primer. Irish Journal of Academic Practice, 6(1), 1-26.

Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychological testing. (5th ed.). New York: Harper Collins Publishers.

Dewey, J. (1938). Experience and education. New York: Macmillan.

Kaplan, D. (2000). Structural Equation Modeling. California: Sage Publications.

Kerzner, H. (2017). Project Management: A Systems Approach to Planning, Scheduling, and Controlling. New Jersey: John Wiley & Sons.

McKenzie, J. F., Neiger, B. L. & Thackeray, R. (2016). Planning, implementing, & evaluating health promotion programs. Toronto: Pearson.

Minkler, M. & Wallerstein, N. (Eds.). (2011). Community-based participatory research for health: From process to outcomes. New Jersey: John Wiley & Sons.

Nunnally, J. C. (1959). Tests and measurements: Assessment and prediction. New York: McGraw-Hill.

Pinto, J. K. (2014). Project management, governance, and the normalization of deviance. International Journal of Project Management, 32(3), 376-387.

Tim, B. & Jocelyn, W. (2010). Design Thinking for Social Innovation. Stanford, CA: Leland Stanford Jr. University.