ข้อเสนอเชิงนโยบายการบริหารจัดการกิจกรรมนักเรียน เพื่อการพัฒนาอุปนิสัยพีอาร์ซีของนักเรียน โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อเสนอเชิงนโยบายการบริหารจัดการกิจกรรมนักเรียนเพื่อการพัฒนาอุปนิสัยพีอาร์ซีของนักเรียน โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่ 2) เพื่อประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของข้อเสนอเชิงนโยบายการบริหารจัดการกิจกรรมนักเรียนเพื่อการพัฒนาอุปนิสัยพีอาร์ซีของนักเรียน โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่ การวิจัยนี้ใช้วิธีการแบบผสมผสาน ซึ่งประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ กลุ่มเป้าหมายในการวิจัยนี้ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านกิจกรรมเพื่อการพัฒนาอุปนิสัย จำนวนทั้งสิ้น 38 คนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 2 ประเภท ได้แก่ 1) แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม และ 2) แบบสอบถามที่ใช้มาตราส่วนประมาณค่า ข้อมูลที่ได้จากการวิจัยถูกวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่ามัธยฐาน ค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และยังมีการวิเคราะห์เนื้อหาจากผลการสนทนากลุ่มเพื่อให้ได้ข้อเสนอและผลลัพธ์ในการพัฒนากิจกรรมนักเรียนที่สอดคล้องกับการพัฒนาอุปนิสัยพีอาร์ซี
ผลการวิจัยพบว่า
- ข้อเสนอเชิงนโยบายการบริหารจัดการกิจกรรมนักเรียนเพื่อการพัฒนาอุปนิสัยพีอาร์ซีของนักเรียน โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยเชียงใหม่ มีอยู่ 5 ด้านโดยมีการพิจารณารายด้าน ดังนี้ด้านการบริหารจัดการอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.59) ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.85)
ด้านกิจกรรมเพื่อการพัฒนาอุปนิสัยพีอาร์ซีของนักเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59) ด้านการมีส่วนร่วมอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.88) ด้านการวัดและประเมินผลอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.66) โดยมีข้อเสนอเชิงนโยบาย 5 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการบริหารจัดการ มีการทบทวนแผนและโครงสร้างบริหารที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ 5 ปี 2) ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอน เน้นความสอดคล้องกับความเชื่อศรัทธาและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง 3) ด้านกิจกรรมเพื่อพัฒนาอุปนิสัยพีอาร์ซี มีกิจกรรมเสริมสร้างอุปนิสัยทั้ง 5 ด้าน 4) ด้านการมีส่วนร่วม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และ 5) ด้านการวัดและประเมินผล มีการกำหนดเครื่องมือและนำผลประเมินมาพัฒนาต่อเนื่องแต่ละด้านได้แก่ - พบว่าด้านการบริหารจัดการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.81 ความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.76 ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.79 ความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.71 ด้านกิจกรรมเพื่อการพัฒนาอุปนิสัยพีอาร์ซีของนักเรียน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.76 ความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 ด้านการมีส่วนร่วม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.95 ความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.52 ด้านการวัดและประเมินผล มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.81 ความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2562). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ .2542 (ฉบับอัพเดท) พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
กอร์ดอน ออลพอร์ต. (1936). ทฤษฎีอุปนิสัย. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม 2566, จาก https://www. novabizz.com/NovaAce /Personality/Theory_Gordon_Allport.htm
ชรินทร์ เกิดพุ่ม. (2564). ข้อเสนอเชิงนโยบายการบริหารโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 2 (สารนิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์.
ชาญชิต ทัพหมี. (2564). รูปแบบการพัฒนาการบริหารโรงเรียนคุณธรรม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในเขตภาคเหนือ (วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ณัฐนนท์ ค้าขาย. (2562). การบริหารจัดการงานกิจกรรมนักเรียนแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนเทพบดินทร์วิทยาเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์คุรุศาสตร์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
ทิพวรรณ สำเภาแก้ว. (2560). ปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 2 (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์.
ทิศนา แขมมณี. (2550). การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม: จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: เกรท เอ็ดดูเคชั่น.
นิพิฐพนธ์ อุไรวรณ์. (2563). การพัฒนารูปแบบการบริหารกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของกลุ่มเครีอข่ายโรงเรียนน้ำหมันหาดล้า สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์เขต 2 (วิทยานิพนธ์ครุศาสตร มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์.
ประภัสสร สมสถาน. (2562). การพัฒนารูปแบบกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะจิตบริการของนักศึกษามหาวิทยาลัยพายัพ (วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย. (2565). มาตรฐานการศึกษาเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย. เชียงใหม่: โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี. (2565). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสาม พ.ศ. 2566-2570. กรุงเทพฯ: สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี.
สุจินตนา ตรงประสิทธิ์. (2560). การบริหารของผู้บริหารสถานศึกษา สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จังหวัดปัตตานี (การค้นคว้าอิสระครุศาสตร์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.
สุนันท์ รุ่งอรุณแสงทอง. (2561). การบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้เกิดประสิทธิภาพ (วิทยานิพนธ์ดุษฏีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุภัค ยมพุก และวิโรจน์ เจษฎาลักษณ์. (2557). การบริหารสถานศึกษาและการรับรู้การสนับสนุนการปฏิบัติงานที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการสอนของครูโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 1. วารสารมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และศิลปะ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 8(2), 15-17.
สุวิมล ว่องวานิช. (2562). การวิจัยและประเมินความต้องการจำเป็น. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Bandura, A. (1986). Social foundations of thought and action: A social cognitive theory. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.
Kolberg. (1973). ทฤษฎีพัฒนาจริยธรรม. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม 2566, จาก https://www.baanjomyut. com/library_3/extension-2/ethics/05_2.html