การดูแลสุขภาพจิตของผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งวัยผู้ใหญ่ในชุมชน
Main Article Content
บทคัดย่อ
โรคมะเร็งเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต ในปัจจุบันการรักษานำเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย และการรักษาแบบผสมผสานทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงทำให้มีจำนวนผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกหลังครบการรักษา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พบว่าโรคมีความก้าวหน้าหรือมีการกลับซ้ำของโรคมะเร็งได้บ่อย ซึ่งส่งผลให้เกิด อาการปวด อาการอ่อนล้าที่ส่งผลกระทบต่อด้านจิตใจ ทั้งความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า และความกลัวการกลับซ้ำของโรคมะเร็ง ดังนั้นการดูแลสุขภาพจิตของผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งในชุมชนจึงมีความสำคัญ
บทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเสนอการดูแลสุขภาพจิตของผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งวัยผู้ใหญ่ในชุมชน ประกอบด้วย ความสำคัญของการดูแลสุขภาพจิตของผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็ง การประเมินหรือคัดกรองสุขภาพจิตวัยผู้ใหญ่ แนวทางการดูแลด้านสุขภาพจิตของผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็ง และบทบาทของทีมสุขภาพในการดูแลสุขภาพจิตในชุมชน การเชื่อมโยงข้อมูลการดูแลของผู้ป่วยทั้งการรักษาด้านร่างกาย และทางด้านจิตใจระหว่างโรงพยาบาล/สถาบันที่ให้การดูแลรักษาโรคมะเร็งและบุคลากรทีมสุขภาพในชุมชน เพื่อช่วยให้เข้าใจองค์ประกอบการดูแลสุขภาพจิตของผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งในชุมชน ซึ่งจะช่วยให้เกิดแนวคิด และพัฒนาการดูแลสุขภาพจิตของผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งในชุมชนต่อไป
Article Details
- บทความหรือข้อคิดเห็นใดๆ ในวารสารคุณภาพชีวิตกับกฎหมายเป็
- กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์
เอกสารอ้างอิง
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2562). แผนพัฒนาสุขภาพจิตแห๋งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2561 - 2580) [ออนไลน์]. [สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2562]. Available จาก: http://www.stopcorruption.moph.go.th/application/editors/userfiles/files/แผนพัฒนาสุขภาพจิตแห่งชาติ%20ฉบับที่%201%20(พ_ศ_%202561-2580).pdf.
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2562). สถิติสาธารณสุข พ.ศ. 2561.
[ออนไลน์]. [สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2562]. จาก: http://bps.moph.go.th/new_bps/sites/
default/ files/statistic%2061.pdf.
ทศา ชัยวรรณวรรต และ สุจิตรา กฤติยาวรรณ. (2561). พยาบาลกับการดําาเนินงานด้านสุขภาพจิตและจิตเวช
ชุมชน. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต, 33(2), 1-12.
ธนา นิลชัยโกวิทย์, มาโนช หล่อตระกูล และอุมาภรณ์ ไพศาลสุทธิเดช. (2539). การพัฒนาแบบสอบถาม Hospital
Anxiety and Depression Scale ฉบับภาษาไทยในผู้ป่วยโรคมะเร็ง. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่ง
ประเทศไทย, 41(1), 18-30.
ธรณินทร์ กองสุข, สุวรรณา อรุณพงค์ไพศาล, ศุภชัย จันทร์ทอง, เบญจมาศ พฤกษ์กานนท์, สุพัตรา สุขาวห และ
จินตนา ลี้จงเพิ่มพูน. (2561). ความเที่ยงตรงตามเกณฑ์การวินิจฉัยโรคซึมเศร้าของแบบประเมินอาการ
ซึมเศร้า 9 คำถามฉบับปรับปรุงภาษากลาง. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 63(4), 321-334.
นันทาวดี วรวสุวัส. (2561). คู่มือความรู้สำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเชี่ยวชาญ สาขา
สุขภาพจิตชุมชน. ขอนแก่น: โรงพิมพ์พระธรรมขันต์.
เบญญพร บรรณสาร และลินจง โปธิบาล. (2559). ความกลัวการกลับเป็นมะเร็งซ้ำ. วารสารสภาการพยาบาล,
31(3), 16-25.
เบญญพร บรรณสาร และลินจง โปธิบาล. (2561). ความสิ้นหวังของผู้รอดชีวิตจากมะเร็ง. วารสารการพยาบาล
จิตเวชและสุขภาพจิต, 32(2), 1-12.
ปองพล ชุษณะโชติ. (2560). รูปแบบการดูแลจิตใจของทีมหมอครอบครัวและบทบาทนักจิตวิทยาคลินิก. วารสาร
จิตวิทยาคลินิก, 49(1), 16-30.
วิจิตรา นุชอยู่, คนึงนิจ พงศ์ถาวรกมล, อรวมน ศรียุกตศุทธ และจิราพร เสตกรณุกูล. (2559). อิทธิพลของ
ความเครียด สถานภาพทางการเงิน การรับรู้ความรุนแรงของอาการ และการรับรู้อุปสรรคต่อพฤติกรรม
สร้างเสริมสุขภาพในผู้ป่วยมะเร็งอุ้งเชิงกรานขณะได้รับรังสีรักษา. วารสารพยาบาลศาสตร์, 34(1), 53-65.
วีรวุฒิ อิ่มสำราญ, อดิศัย ภัตตาตั้ง, พงศธร ศุภอรรถกร, อาคม ชัยวีรวัฒนะ, เกรียงไกร นามไธสง, เมธี วงศ์เสนา,
และคณะ. (2561). สถิติโรคมะเร็งในประเทศไทย ฉบับที่ 9 พ.ศ. 2556-2558 (Cancer in
Thailand Vol. IX, 2013-2015). กรุงเทพ: นิวธรรมดาการพิมพ์.
สมิทธิ์ สร้อยมาดี. (2560). อัตราการรอดชีพและปัจจัยพยากรณ์โรคของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในโรงพยาบาลวชิระ
ภูเก็ต. วารสารโรคมะเร็ง, 37(2), 62-71.
สุวัฒน์ มหัตนิรันดร์กุล, วนิดา พุ่มไพศาลชัย และพิมพ์มาศ ตาปัญญา. (2540). การสร้างแบบวัดความเครียด
สวนปรุง. วารสารสวนปรุง, 13(3): 1-20.
สำนักส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2559). แนวปฏิบัติการดูแลทาง
สังคมจิตใจใน Psychosocial Clinic และคลินิกต่างๆ ของโรงพยาบาลชุมชน (ฉบับทดลองใช้)
[ออนไลน์]. [สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2562]. จาก: https://www.chiangmaihealth.go.th/
cmpho_ web/document/161026147747057724.pdf.
องอาจ โสมอินทร สมสุดา โสมอินทร และกฤติกา สุวรรณรุงเรือง. (2558). มะเร็งเตานมในโรงพยาบาลศรีนครินทร
(พ.ศ. 2543-2553). ศรีนครินทรเวชสาร, 30(2), 87-91.
อมราพร สุรการ และณัฐวุฒิ อรินทร์. (2557). การดูแลสุขภาพจิต: การมีส่วนร่วมของชุมชน. วารสาร
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี), 6(12), 176-184.
อรวรรณ ศิลปกิจ. (2551). แบบวัดความเครียดฉบับศรีธัญญา. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 16(3),
177-185.
Arunpongpaisal, S., Kongsuk, T., Maneethorn, N., Maneethorn, B., Wannasawek, K.,
Leejongpermpoon, J., et al. (2009). Development and validity of two-question screening
test for depressive disorders in Northeastern Thai community. Asian Journal of
Psychiatry, 2, 149-152.
Denlinger,C.S., Carlson, R.W., Are, M., Baker, K.S., Davis, E., Edge, S.B., et al. (2014). Survivorship:
introduction and definition clinical practice guidelines in oncology. Journal of the
National Comprehensive Cancer Network, 12, 34-45.
Department of Health, Western Australia. (2008). Psycho-oncology model of care [Online].
Retrieved December 8 2019, from: https://ww2.health.wa.gov.au/~/media/Files/ Corporate/general%20documents/Health%20Networks/WA%20Cancer%20and%20Palliative% 20Care/Cancer/Psycho-Oncology-Model-of-Care.pdf.
Grant, M., Economou, D., Ferrell, B., & Bhatia, S. (2007). Preparing professional staff to care for
cancer survivors. Journal of Cancer Survivorship, 1, 98-106.
Grassi, L., Spiegel, D., & Riba, M. (2017). Advancing psychosocial care in cancer patients.
F1000Research, 6, 2083.
Jones, J., Howell, D., & Grunfeld, E. (2018). Cancer survivorship: a local and global issue in cancer
control. Lancet Global Health, 6, S19.
Recklitis, C.J., & Syrjala, K.L. (2017). Provision of integrated psychosocial services for cancer
survivors post-treatment. Lancet Oncology, 18, e39–e50.
Turnbull Macdonald, G.C., Baldassarre, F., Brown, P., Hatton-Bauer, J., Li, M., Green, E., et al. (2012).
Psychosocial care for cancer: a framework to guide practice, and actionable
recommendations for Ontario. Current Oncology, 19, 209-216.