พฤติกรรมและการประเมินความเสี่ยงตนเองในการสูบบุหรี่ของกลุ่มบุคลากร และนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี

Main Article Content

ธีรังกูร วรบำรุงกุล
เชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล
มนตรี วิชัยวงษ์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพฤติกรรมการสูบบุหรี่ 2) การประเมินความเสี่ยงตนเองในการสูบบุหรี่ และ 3) วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการประเมินความเสี่ยงตนเองในการสูบบุหรี่ของกลุ่มบุคลากรและนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ บุคลากรและนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จำนวน 400 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบวัดพฤติกรรมและการประเมินความเสี่ยงตนเองในการสูบบุหรี่


การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพฤติกรรมการสูบบุหรี่ 2) การประเมินความเสี่ยงตนเองในการสูบบุหรี่ และ 3) วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการประเมินความเสี่ยงตนเองในการสูบบุหรี่ของกลุ่มบุคลากรและนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ บุคลากรและนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จำนวน 400 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบวัดพฤติกรรมและการประเมินความเสี่ยงตนเองในการสูบบุหรี่


ผลการวิจัยพบว่า 1) บุคลากรและนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีมีพฤติกรรม เคยสูบบุหรี่มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 92.7 2) การประเมินความเสี่ยงตนเองในการสูบบุหรี่มีความเสี่ยงมาก คิดเป็นร้อยละ 22.2 และ 3) ปัจจัยส่วนบุคคลส่งผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่และความเสี่ยงในการสูบบุหรี่ของบุคลากรและนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 สามารถสร้างสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบ คือgif.latex?\hat{Y} = .54 + -0.38**X1 และ gif.latex?\hat{Y}= 2.13 + -0.14**X1 ตามลำดับ และสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน คือgif.latex?\hat{Z}y = -0.33**ZX1 และ gif.latex?\hat{Z}y = 0.28**ZX1  ตามลำดับ


ข้อเสนอแนะจากผลการวิจัย คือ ควรมีการกำหนดนโยบายหรือส่งเสริมในการพัฒนาคุณภาพของบุคลากรและนักศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยส่วนบุคคลให้มีคุณภาพมากขึ้น เพราะทัศนคติมีผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่


ผลการวิจัยพบว่า 1) บุคลากรและนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีมีพฤติกรรม เคยสูบบุหรี่มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 92.7 2) การประเมินความเสี่ยงตนเองในการสูบบุหรี่มีความเสี่ยงมาก คิดเป็นร้อยละ 22.2 และ 3) ปัจจัยส่วนบุคคลส่งผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่และความเสี่ยงในการสูบบุหรี่ของบุคลากรและนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 สามารถสร้างสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบ คือgif.latex?\hat{Y} = .54 + -0.38**X1 และ gif.latex?\hat{Y}= 2.13 + -0.14**X1 ตามลำดับ และสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน คือ gif.latex?\hat{Z}y = -0.33**ZX1 และ gif.latex?\hat{Z}y = 0.28**ZX1  ตามลำดับ


ข้อเสนอแนะจากผลการวิจัย คือ ควรมีการกำหนดนโยบายหรือส่งเสริมในการพัฒนาคุณภาพของบุคลากรและนักศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยส่วนบุคคลให้มีคุณภาพมากขึ้น เพราะทัศนคติมีผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กองสุขศึกษา. (2558). การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสูบบุหรี่สำหรับวัยทำงาน. นนทบุรี: กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข.

กองสุขศึกษา. (2561). การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ. ฉบับปรับปรุงปี 2561. นนทบุรี: กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข.

จำนง พึ่งพงษ์. (2559). ข่าว สวท.จันทบุรี. เข้าถึงเมื่อ 4 เมษายน 2562, เข้าถึงจาก http://facebook.com/891435934424/posts/.

จิตรลดา อารีย์สันติชัย. (2560). สธ.เร่งคุมบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ภัยตัวใหม่. เข้าถึงเมื่อ 4 เมษายน 2562, เข้าถึง จาก http://www.trc.or.th/th.

นิยม จันทร์นวล และพลากร สืบสำราญ. (2559). สถานการณ์การสูบบุหรี่ของบุคลากรและนักศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี: ภายใต้โครงการมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีปลอดบุหรี่. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. 18(2).

ปริวัตร ปาโส พนิดา ชูเวช และธนะพัฒน์ ทักษิณทร์. (2560). พฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนักกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, 11(1).

พัชมณ ใจสอาด และเบญจวรรณ ธรรมรัตน์. (2557). มาตรการกฎหมายในการควบคุมการสูบบุหรี่ใน สถานศึกษา. วารสารจันทรเกษมสาร. 20(39).

มูลนิธิการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่. (2559). สื่อรณรงค์เลิกบุหรี่. สืบค้น 15 กรกฎาคม 2563, จาก http.smokefreezone.com

ยุทธ ไกยวรรณ์. (2553). หลักสถิติวิจัยและการใช้โปรแกรม SPSS. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์. (2560). สธ.เร่งคุมบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ภัยตัวใหม่. เข้าถึงเมื่อ 21 มกราคม 2562, เข้าถึงจาก http://www.trc.or.th/th.

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2560). ในบุหรี่มีสารพิษอะไรบ้าง. เข้าถึงเมื่อ 4 เมษายน 2562, เข้าถึงจาก https://www.thaihealth.or.th/Content/3915787.html.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). “บุหรี่ไฟฟ้า” ภัยร้ายที่ต้องเฝ้า ระวัง. เข้าถึงเมื่อ 20 มกราคม 2562, เข้าถึงจาก https://www.pptvhd36.com/news.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2561). สำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของประชากร พ.ศ. 2560. กรุงเทพฯ: พิมพ์ดีการพิมพ์ จำกัด.

อภิณัฐ ช้างกลาง และพิษนุ อภิสมจารโยธิน. (2561). การวิเคราะห์สาเหตุเชิงพฤติกรรมที่มีความสัมพันธ์กับ พฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนิสิตหญิง ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก. วารสารสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยทักษิณ, 7(2561); 111 - 130.

อาภารัตน์ อิงคภากร. (2557). ความรู้ ทัศนคติและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนิสิตชาย ระดับปริญญาตรีวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน. รายงานการศึกษาปัญหาพิเศษ หลักสูตรศึกษาศาสตร บัณฑิตสาขาวิชาสุขศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

Gibson, James L., et al. (2000). Organization: Structure, process, behavior. Texas: Business Publications Inc.

Hornby, A.S. (2005). Oxford advanced learner’s dictionary: of current English. 7th edition. Oxford: Oxford University.

Newstrom and Devis. (2002). The elements of statistics: with applications to economics and the social sciences. 1st edition. San Francisco: Belmont.

Schermerhorn, John R., Jr., James G. Hunt and Richard N. Osborn. (2000). Organizational Behavior. 7th edition. New York: John Wiley & Sons.

World Health Organization. (2009). WHO Report on the Global Tobacco Epidemic, 2009: Implementing smoke-free environment. Geneva: World Health Organization.