แนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธศิลป์ วัดปงสนุกเหนือ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงพุทธศิลป์ และเสนอแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธศิลป์ วัดปงสนุกเหนือ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ มีการสุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถามจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมยังแหล่งท่องเที่ยวและกลุ่มประชาชนในท้องถิ่น การสัมภาษณ์เชิงลึกจากกลุ่มผู้นำชุมชนในท้องถิ่นแล้วนำข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า วัดปงสนุกเหนือ มีสภาพแวดล้อมโดยทั่วไปและศักยภาพของพื้นที่เหมาะสมต่อการจัดรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงพุทธศิลป์ โดยมีจุดเด่นในเรื่องของศิลปะทางศาสนาและในเรื่องของประวัติความเป็นมาของวัดปงสนุกเหนือ และมีพิพิธภัณฑ์ทางพุทธศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์ของทางวัดปงสนุกเหนือ มีรูปปั้นของพระพุทธรูปที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นจุดเด่นที่เหมาะแก่การให้นักท่องเที่ยวเข้ามาศึกษาในเรื่องพุทธศิลป์ แนวทางสงเสริมควรมีการปรับปรุงและพัฒนาด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการเข้าถึงควรมีรถโดยสารประจำทาง จุดจอดรถ ป้ายบอกทางต่าง ๆ ไปยังแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่จัดแสดงงานพุทธศิลป์ด้านต่าง ๆ ภายในบริเวณวัด รวมไปถึงร้านค้า สถานที่จำหน่ายของที่ระลึกหรือหนังสือข้อมูลต่าง ๆ และควรมีแนวทางการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ในสื่อทุกช่องทาง ถึงกิจกรรมและสถานที่ของแหล่งท่องเที่ยว และการมีส่วนร่วมของชุมชนในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงการจัดให้มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นหรือยุวมัคคุเทศก์เพื่อนำชมและเป็นการส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเชิงพุทธศิลป์ วัดปงสนุกเหนือ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ให้ดีมากยิ่งขึ้นต่อไป
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
เอกสารอ้างอิง
Adhikary, M. (1995). Management of Ecotourism. Srinakarinwirot University.
Akkaranggoon, S. (2010). Tourist Behaviour. Klangnanavittaya.
Bangkok Art and Culture Center. (2011). Background of the Bangkok Art and Culture Center. http://www.bacc.or.th/history/background.
Buhalis, D. (2000). Marketing the Competitive Destination in the Future. Tourism Management. Pearson.
Department of Tourism, Ministry of Tourism and Sports. (2017). The Second National Tourism Development Plan (2017 - 2021). Department of Tourism, Ministry of Tourism and Sports.
Information and Communication Division, Lampang Municipality. (2020a). Demographics and Tourists Lampang Municipality, Lampang Province. http://www.lampang.go.th/lamp.html.
Information and Communication Division, Lampang Municipality. (2020b). History of Nakhon Lampang. http://www.lampang.go.th/lamp.html.
Leiper, N. (2008). Tourism management. Pearson.
Ongsakul, S. (2015). History of Lanna (3rd ed.). Amarin.
Promjisa, N. (2016). The Model and Process of Buddhism-Based Tourism Management in Chiang Rai Province. Academic Journal of Buriram Rajabhat University, Humanities and Social Sciences, 8(Special), 354-363.
Rittem, P. (2015). Religious and Cultural Tourism Management Model in Buddhist Temple. Journal of Liberal Art, Ubon Ratchathani University, 11(1), 1-23.
Sukhothai Thammathirat Open University. (2011). Document set for Recreation and Nature Tourism Management. Sukhothai Thammathirat Open University.
Tourism Authority of Thailand. (2011). Tourism Development and Promotion Plan of the Tourism Authority of Thailand. http://thai.tourismthailand.org/tourismthailand_index/th.
Tourism Authority of Thailand. (2017). Travel Compass. TAT Review Magazine Journal, 34(1), 1-7.
Tourism Authority of Thailand. (2021). Tourism Promotion Action Plan for the Year 2021. http://thai.tourismthailand.org/tourismthailand_index/th.
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis (3rd ed). New York. Harper and Row.