การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้

Main Article Content

ไพศาล โกพัฒน์ตา
สุริยงค์ ชวนขยัน
สมสรรญก์ วงษ์อยู่น้อย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ และประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนแรกการพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ได้จากการสังเคราะห์เอกสาร แนวคิด ทฤษฎี งานวิจัย องค์ประกอบองค์กรแห่งการเรียนรู้ และสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 คน เพื่อนำผลการสัมภาษณ์มาร่างเป็นแบบสอบถามให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 17 คน แสดงความคิดเห็นที่มีต่อรูปแบบการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ซึ่งใช้กระบวนการเทคนิค เดลฟาย จำนวน 3 รอบ เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามในรอบแรกเป็นแบบสอบถามแบบปลายเปิด สำหรับรอบที่ 2-3 เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ขั้นตอนที่ 2 เป็นการประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยนำแบบสอบถามไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้อำนวยการ และหัวหน้างานวิชาการโรงเรียนในฝันสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ จำนวน 358 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า กำหนดคำตอบเป็น 5 ระดับ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.94 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่ามัธยฐาน ค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน


ผลการวิจัยพบว่า


  1. การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ พบว่า มีองค์ประกอบที่มีความเหมาะสมและความเป็นไปได้ 8 องค์ประกอบ 53 ตัวแปร ได้แก่ องค์ประกอบการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ องค์ประกอบการมีวัฒนธรรมการเรียนรู้ องค์ประกอบการจัดโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสม องค์ประกอบการมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน และองค์ประกอบการเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม มีจำนวนองค์ประกอบละ 6 ตัวแปรเท่ากัน องค์ประกอบการคิดอย่างเป็นระบบ องค์ประกอบการมีภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง มีจำนวนองค์ประกอบละ 7 ตัวแปร และองค์ประกอบการสร้างบรรยากาศแบบเปิด มีจำนวน 9 ตัวแปร

  2. การประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้โดยรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายองค์ประกอบ พบว่า องค์ประกอบที่มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด คือ องค์ประกอบการเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม และองค์ประกอบการมีภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง สำหรับองค์ประกอบที่มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากคือ องค์ประกอบการคิดอย่างเป็นระบบ องค์ประกอบการจัดโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสม องค์ประกอบ

การเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ องค์ประกอบการมีวัฒนธรรมการเรียนรู้ องค์ประกอบการสร้างบรรยากาศแบบเปิด และองค์ประกอบการมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

1. กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
2. กรุณา พลใส. (2550). แนวทางการพัฒนาบุคลากร เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
3. ชัชวาล จรูญรัชฎ์. ( 2550). การพัฒนาสถาบันวิจัยทางยุทธศาสตร์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้. (เอกสารวิจัยหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ 19). กรุงเทพฯ: วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร.
4. พะโยม ชิณวงศ์. ( 2555 ). รูปแบบการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาเฉพาะความพิการสำหรับเด็กหูหนวกในประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร.
5. ไพฑูรย์ สินลารัตน์และคณะ. (2550). โครงการวิจัยการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน CRP. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
6. สาโรจน์ แก้วอรุณ. ( 2552 ). รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสู่ความเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฏีบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเซีย.
7. Bennett, J. K., & M. J. O’ Brien. (1994). The building block of the learning organization. Training,31,41-49
8. Gephart, M. A., Marsick,V.J, et al. (1996). Learning organization come alive. Training & Development. 50 (12),34-44.
9. Krejcie, R.V. and Mogan , D.W.(1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-609.
10. Marquardt, M. J. (1996). Building the learning organization. New York: McGraw-Hill.
11. Marquardt, M. J. (2002). Building the learning organization: Mastering the 5 elements for Corporate Learning.Palo Alto: Davies-Black.
12. Reece, P. D. (2004). University as learning organization how can Australian universities become learning organization?. Unpublished doctoral’s dissertation, Murdoch University.
13. Senge, P. M. (1990). The fifth discipline: The art and practice of the learning organizational. New York : Doubleday.
14. Senge, P. M. (1991). Team Learning. McKinsey Quarterly: 82 – 93.
15. Ubben, C.G.,et al., (2001). The Principal: Creative leadership for effective school. (4 th ed).Boston: Allyn and Bacon.
16. Ulrich, D. (1993). Profiling organizational competitiveness: Cultivating capabilities. Human Resource Planning, 16(3), 1-17