การส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบโมไบล์ – เลิร์นนิง
DOI:
https://doi.org/10.14456/rcmrj.2020.235689คำสำคัญ:
ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต, แบบวัดทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต, โมไบล์ – เลิร์นนิงบทคัดย่อ
การเรียนรู้ตลอดชีวิตช่วยส่งเสริมผู้คนทั้งในด้านความรู้และความสามารถ ให้ผู้คนเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง สามารถพัฒนาตนเอง ดูแลตนเอง และเลือกสิ่งที่จะเรียนให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและการทำงานของตนเองได้ การเรียนรู้สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา บุคคลจึงสามารถพัฒนาศักยภาพตนเองได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร ด้วยเหตุดังกล่าวผู้วิจัยจึงมุ่งที่จะส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตของนักเรียน กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาคาร อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 36 คน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบโมไบล์ - เลิร์นนิง (m – Learning) แบบวัดทักษะของนักเรียนโดยใช้แบบวัดทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ประเมิน 5 ระดับใน 5 ทักษะ ได้แก่ ทักษะในการใช้เทคโนโลยี ทักษะด้านการเรียนรู้ ทักษะในการสืบค้นและวิเคราะห์ข้อมูล ทักษะการพึ่งพาตนเอง และทักษะการใช้ภาษาจำนวน 15 ข้อ คุณภาพเครื่องมือมีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.8 – 1.0 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .298 – .772 ค่าความเชื่อมั่นอยู่ระหว่าง .721 – .865 ดำเนินการวิจัยในชั้นเรียนตามวงรอบปฏิบัติการจำนวน 2 วงรอบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนการวิจัยพบว่ามีนักเรียนที่มีทักษะอยู่ในระดับน้อย 6 คน (ค่าเฉลี่ย = 2.30, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.86) และน้อยที่สุด 3 คน (ค่าเฉลี่ย = 1.38, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.66) เมื่อสิ้นสุดวงรอบปฏิบัติการที่ 1 พบว่ามีนักเรียนที่มีทักษะอยู่ในระดับน้อย 4 คน (ค่าเฉลี่ย = 1.93, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.59) ในวงรอบที่ 2 พบว่านักเรียนทุกคนมีทักษะอยู่ในระดับมากขึ้นไป (ค่าเฉลี่ย = 4.33, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.67)
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Choomsai, J. C. (2008). The Characteristics of Lifelong Learners of Undergraduate Students in the Senior Year. (Ph.D., Srinakharinwirot University). (In Thai)
Chuensationsup, K. (2005). Community Way, A Learning Guides Makes Community Work Easy, Effective and Fun. Bangkok: Health System Research Institutes. (In Thai)
Donald, J. J. (2004). Ensuring the Basis for an Effective Corporate Governance Framework. Composition and Analysis, OECD PRINCIPLES OF CORPORAT GOVERNANCE, 12 (1), 15-17.
Narot, P. (2001). Lifelong education. Journal of Academic Service Center Khon Kaen University, 9(1), 6-11. (In Thai)
Sakcharoen, P. (2015).Adult Learning Theory and Self-Directed Learning Concept: Learning Process for Promoting Lifelong Learning. Journal of the Royal Thai Army Nurses, 16(1), 8-13. (In Thai)
Sangsri, S. (2001). Lifelong Education Research Report for Thai Society in the 21st Century. Bangkok: Office of the National Education Commission. (In Thai)
Sattrapruek, S. (2017). Flipped Classroom in 21st Century Learning for Development of Learning and Innovation Skills. Academic Services Journal, Prince of Songkla University, 28(1), 100-108. (In Thai)
Sunretphol, N. (2004). A Development of Educational Indicators for Lifelong Learning. (Doctoral dissertation, Srinakharinwirot University). (In Thai)
Sunthanchai, S. (2005). Learning and Education. Nonthaburi: Office of Education Technology Sukhothai Thammathirat Open University. (In Thai)
Vate-U-Lan, P. (2008). Mobile Learning (mLearning). Retrieved from www.thaimlearning.blogspot.com (In Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
1. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน “Community and Social Development Journal” ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ Community and Social Development Journal มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และเพื่อให้เผยแพร่บทความได้อย่างเหมาะสมผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และอิเล็กทรอนิกส์ ผู้เขียนยังคงถือครองลิขสิทธิ์บทความที่ตีพิมพ์ภายใต้ใบอนุญาต Creative Commons Attribution (CC BY) ซึ่งอนุญาตให้เผยแพร่บทความซ้ำในแหล่งอื่นได้ โดยอ้างอิงต้องอ้งอิงบทความในวารสาร ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตผลิตซ้ำเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์จากแหล่งอื่น
2. เนื้อหาบทความที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ



