รูปแบบประดิษฐ์ท่านวดไทยมรดกทางวัฒนธรรมสุขภาพของชาติ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อได้รูปแบบท่านวดไทยมรดกทางวัฒนธรรมสุขภาพของชาติ 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจการใช้รูปแบบท่านวดไทยมรดกทางวัฒนธรรมสุขภาพของชาติ กลุ่มตัวอย่างเป็นอาสาสมัครผู้มารับบริการสุขศาลาอโรคยาธรรมกวี วัดราชาธิวาส ระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคม โดยการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปเพื่อหาค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า รูปแบบประดิษฐ์ท่านวดมีรูปแบบทั้งหมด จำนวน 8 หมวด 30 และหลังผู้เข้ารับบริการรูปแบบนวดไทยมรดกทางวัฒนธรรมสุขภาพของชาติ มีความพึงพอใจสูงสุด อยู่ในระดับคะแนน 4.11 ซึ่งการนวดไทยมีจุดแข็ง โดยทบทวนหลักวิชาการ มีความจำเป็นต้องรู้หลักทฤษฏีเส้นประธานสิบ และกายวิภาคศาสตร์สรีระร่างกายสำคัญที่สุด จุดตำแหน่งรูปแบบท่าที่เหมาะสม ความอ่อนช้อย นุ่มนวล ละมุนละม่อม ละเอียดอ่อน มีความปราณีตในการนวดที่ใส่ใจเป็นการสัมผัสที่รับรู้ได้ทั้งลีลาท่าทางการนวด ร่วมกับสายตาการบริการด้วยใจ ระยะเวลาให้บริการ จุดอ่อนหากไม่มีความรู้จะเกิดอันตรายได้ วิธีการนวดขั้นตอนของลายละเอียดรูปแบบการให้บริการเป็นขั้นตอนหัวใจสำคัญเป็นเอกลักษณ์ของไทย
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
References
พลแก้ว วัชระชัยสุรพล และอัญชญา ดุจจานุทัศน์. (2563). การพัฒนารูปแบบบริการนวดไทยในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิชาการกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, 16(1), 33-43.
ลินจง โพชารี. (2560). วิจัยเรื่องความพึงพอใจต่อการใช้บริการนวดแผนไทยในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 8(1), 131-141.
Best, J. W. (1970). Research in education. Englewood Cliffs: Prentice-Hall.