The Effect of King Rama IX’s Principles of Learning Management and Based on the Mentoring System of Work on the Attitude towards Methods of Teaching Football to Students in Physical Education Department

Main Article Content

วิธวรรธน์ สีชื่น

Abstract

            This research aimed to study and compare the effect of King Rama IX's principles of learning management and based on the mentoring system of work on the attitude towards methods of teaching Football of students in the physical education department the sample was Physical education students in the 3rd year of forty people. They were selected by purposive sampling then they were simple random sampling into two groups of 20 people. The experimental group was taught by football teaching learning management plan according to the principles of King Rama IX and the mentoring system concept and the control group was learned in a normal way by doing an experiment for 8 weeks and taking 2 hours each the instrument for collecting data was measuring attitudes towards teaching football were measured before and after 8 weeks. Analysis of data by means, standard deviations, and t-test. The research results were found as follows: 1. After the experimental, the mean score of attitude towards methods of teaching football of the experimental group was a very good level at 4.21; 2. After the experimental, the mean score of attitude towards methods of teaching football of the experimental group was higher than the control group and was a significant difference at .05.

Article Details

Section
Research Articles

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.

กลมรัตน์ หล้าสุวงษ์. (2528). จิตวิทยาการศึกษา (Educational Psychology). กรุงเทพฯ: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร.

กัลยา วานิชย์บัญชา. (2547). หลักสถิติ. กรุงเทพฯ: ศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ประโยค สุทธิสง่า. (2539). คู่มือการสอนฟุตบอล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช.

เปรมฤทัย ขนันไทย. (2548). องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อเจตคติการมีเพศสมพันธ์ในวัยเรียน ของนักเรียนช่วงชั้นที่ 4 โรงเรียนปทุมพิทยาคม จังหวัดอุบลราชธานี. (ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.จิตวิทยาการศึกษา). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, บัณฑิตวิทยาลัย, สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษา. ถ่ายเอกสาร.

ภัทรพงศ์ รัตนกาญจน์. (2560, มกราคม-มิถุนายน). ผลการจัดการเรียนรู้ตามหลักการทรงงานของรัชกาลที่ 9 และทฤษฎีพัฒนาด้านจิตพิสัยที่มีต่อเจตคติในการเรียนพลศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารทางอิเล็กโทรนิค คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 15(1).

ยอดหทัย เทพธรานนท์ และประมวล ตั้งบริบูรณ์รัตน์. (2548). Mentor-mentee-mentoring: ศาสตร์และศิลป์ของการเป็นนักวิจัยพี่เลี้ยงที่ดี. ปทุมธานี: มูลนิธิบัณฑิตยสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย.

วรศักดิ์ เพียรชอบ. (2527). หลักและวิธีสอนพลศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.

วิธวรรธน์ สีชื่น. (2563). ผลของการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการโดยใช้แนวคิดจิตตปัญญาศึกษาโครงงานวิจัยเป็นฐานและระบบพี่เลี้ยง เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะความเป็นครูสำหรับนักศึกษาสาขาวิชาพลศึกษา. (รายงานผลการวิจัย). เพชรบูรณ์: คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์.

ศรันย์ รื่นณรงค์. (2553). ปัจจัยที่ส่งผลต่อเจตคติต่อการเรียนวิชาพลศึกษาของนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษา.

สยามรัฐ. (2560). ศาสตร์พระราชา. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://siamrath.co.th/n/10248. (วันที่ค้นข้อมูล: 25 กันยายน 2560).

สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน. (2562). รายงานผลการประเมินคุณภาพการสอน (ออนไลน์) ของอาจารย์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 (ภาคปกติ). (รายงานผลการวิจัย). เพชรบูรณ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์.

สุชา จันทร์เอม และสุรางค์ จันทร์เอม. (2520). จิตวิทยาสังคม. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แพร่วิทยา.

ห้องสมุดมั่นพัฒนา. (2560). หลักการทรงงานเรื่องแรงระเบิดจากข้างใน. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.manpattanalibrary.com/. (วันที่ค้นข้อมูล: 25 กันยายน 2560).