The Library Standard of Primary School Under The Office of Basic Education Commission
Keywords:
Primary School Library StandarAbstract
The purposes of this research were to determine: 1) the library standard of primary school under the office of basic education commission and 2) verify library standard of primary school under the office of basic education commission. The samples consisted of 100 Basic Education schools which determined by Taro Yamane sample size table at the confidence level of 90%. The sample was obtained from stratified random sampling. The respondents from each school were a school director, academic teacher and librarian or teacher who have taken for responsibility, totally 300 respondents. The research instruments were 1) the questionnaire of the library standard of primary school under the office of basic education commission 2) the questionnaire and 3) the confirmatory factor analysis questionnaire of the library standard of primary school under the office of basic education commission. The statistics for analyzing the data were frequency, percentage, arithmetic mean, standards deviation, confirmatory factor analysis and content analysis.
The research findings revealed that:
1) The library standard of primary school under the office of basic education commission consisted of 8 standards in 65 indicators. First standard, the personnel, was composed of 12 indicators. Second standard, the budget, was composed of 4 indicators. Third standard, the buildings and stuffs, was composed of 6 indicators. Fourth standard, information and resource, was composed of 10 indicators. Fifth standard, administration and management, was composed of 12 indicators. Sixth standard, services, was composed of 8 indicators. Seventh standard, quality assurance, was composed of 5 indicators and eighth standard, the library utilization, was composed of 8 indicators.
2) The library standard of primary school under the office of basic education commission was verified with accuracy, a propriety, feasibility and utility.
References
ชโรซินีย์ ชัยมินทร์ และสุภาณี เส็งศรี. (2563). สถานการณ์ห้องสมุดโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในประเทศไทย. มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (สทมส.). 26,1. (มกราคม – มีนาคม) : 23.
น้ำค้าง เกิดลิบ. (2548). ห้องสมุดโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานครที่พึงประสงค์ตามแนวคิดของผู้บริหารโรงเรียนและบรรณารักษ์. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
บุญญลักษณ์ ตำนานจิตร และ สายสุดา ปั้นตระกูล. (2557). แนวทางการพัฒนาการจัดการสารสนเทศประเภทห้องสมุดโรงเรียนในฝันของประเทศไทย. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสวนดุสิต.
พิมพ์นภา ส่งสัมพันธ์สกุล. (2557).ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการดำเนินงานห้องสมุดมีชีวิต โรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรี เขต 1. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.
เพลินพิศ โคตรทองหลาง. (2554). การบริหารและการบริการของห้องสมุดโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานีเขต 2. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต แขนงวิชาสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
มาลี ไชยเสนา. (2557).การพัฒนาห้องสมุดโรงเรียนในสังคมแห่งการเรียนรู้. มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. 5, 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม) : 55-68.
รุ่งรุจี ศรีดาเดช. (2560). การจัดกิจกรรมห้องสมุดโรงเรียนต้นแบบโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านระดับประถมศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชรเขต 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต แขนงวิชาสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
มาตรฐานห้องสมุดโรงเรียนของประเทศฟิลิปปินส์ (Standards for Philippine Libraries : School Libraries and Media Centers).เข้าถึงเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2563. เข้าถึงได้จากhttps://paslinews.files.wordpress.com/2009/08/standards-for-philippine-school-libraries.pdf
วัลลภา สุภีกิตย์. (2552). แนวทางการพัฒนาคุณภาพห้องสมุดโรงเรียนโพธินิมิตวิทยาคม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี. การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สมจินตนา ชังเกตุ. (2554). การพัฒนารูปแบบห้องสมุดชุมชนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต. ดุษฎีนิพนธ์ ปริญญาศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาการศึกษาตลอดชีวิต และการพัฒนามนุษย์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สายใจ เสือกะ. (2553). การให้บริการห้องสมุดแก่เด็กที่มีความต้องการพิเศษในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบรรณรักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สุธีรา งามเกียรติทรัพย์. (2561). รูปแบบการพัฒนาห้องสมุดมีชีวิตสำหรับวัดในประเทศไทย. มหาจุฬาวิชาการ. 5,1 (เมษายน) : 184-195.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2556). มาตรฐานห้องสมุดโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2556. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2551). กรอบทิศทางการพัฒนาการศึกษาในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554) ที่สอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2545-2559). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อรรัมภา อัญชลิสังกาศ. (2553). สภาพและปัญหาการใช้ระบบห้องสมุดอัตโนมัติของห้องสมุดโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
Best, J. W. & Kahn J. V. (2006).Research in Education . 10th ed. Massachusetts : Pearson Education Inc.,
Cronbach, L. J.(1984). Essentials of Psychological Tests, 4th ed. New York : Harper & Row
Publisher.
Likert, R.(1967). The Human Organization: Its Management and Values. New York : McGraw-Hill.
Taro Yamane.(1973). Statistics: An Introductory Analysis, 3rd ed, New York : Harper & Row
Publishers, Inc.
Downloads
Published
Issue
Section
License
Copyright (c) 2022 Pacific Institute of Management Science
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว