การจัดการความชัดแย้งด้วยสันติวิธีโดยผู้นำชุมชน ในตำบลควนสุบรรณ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี
คำสำคัญ:
ความขัดแย้ง, สันติวิธี, ข้อพิพาทบทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและสาเหตุความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบลควนสุบรรณ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2) ศึกษาแนวทางการจัดการความขัดแย้งในรูปแบบต่าง ๆ ในชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบลควนสุบรรณ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และศึกษาแนวทางที่เหมาะสมในการจัดการความขัดแย้งในชุมชนองค์การบริหารส่วนตำบลควนสุบรรณ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยการวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) การใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึก (in-depth interview) และสนทนากลุ่ม (Focus Group)
ผลการศึกษาพบว่า สภาพปัญหาความขัดแย้งมี 4 ประการ ได้แก่ ความขัดแย้งจากการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการบริการของรัฐความขัดแย้งที่เกิดจากค่านิยมต่างกันตามความเคยชินที่เคยปฏิบัติกันมา ความขัดแย้งจากการผลประโยชน์ขัดกัน และความขัดแย้งที่เกิดจากอุดมการณ์ที่แตกต่างกันทำให้เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกสาเหตุของความขัดแย้ง มาจากสาเหตุด้านผลประโยชน์ ด้านความสัมพันธ์ ด้านค่านิยม ด้านข้อมูลการสื่อสาร และสาเหตุด้านโครงสร้าง และ/หรือกฎระเบียบของสังคมตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่ามีแนวทางการจัดการความขัดแย้ง 3 แนวทางใหญ่ ๆ เรียงตามลำดับ ได้แก่ การใช้สันติวิธี การไม่จัดการปัญหา และการใช้วิธีรุนแรง การใช้สันติวิธีนั้นแบ่งได้ 2 แนวทาง คือ การเจรจา และการดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนแนวทางที่เหมาะสมที่ก่อให้เกิดความรู้สึก ชนะ-ชนะ จนเป็นผลสำเร็จส่วนใหญ่เกิดจากการเจรจาไกล่เกลี่ยโดยคนกลาง ข้อเสนอแนะจากการวิจัย 1) ข้อเสนอแนะทางด้านนโยบาย เช่น การสร้างช่องทางการสื่อสารทำความเข้าใจ การสนับสนุนส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน การสนับสนุนการจัดทำแผนประชาคมชุมชนและการดำเนินการตามแผน การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์การทำงานที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยใช้หลักการมีส่วนร่วม 2) ทางด้านโครงสร้าง โดยการปรับปรุงกฎ ระเบียบ เพื่อให้ ผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปปรับใช้ในการกำหนดกฎระเบียบเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง เช่น กำหนดหลักเกณฑ์ให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการไกล่เกลี่ยชุมชนอย่างแท้จริง กำหนดหลักเกณฑ์การนำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย เนื่องจากปัจจุบันการเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทถือเป็นเพียงทางเลือก การกำหนดหลักเกณฑ์อายุความของข้อพิพาทที่นำเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย การกำหนดหลักเกณฑ์ให้ข้อตกลงที่เกิดจากการทำสัญญาประนีประนอมข้อพิพาทในการไกล่เกลี่ย
เอกสารอ้างอิง
ชัยวัฒน์ สถาอานันท์. (2549). สันติทฤษฎี/วิถีวัฒนธรรม. กรุงเทพมหานคร : เรือนแก้วการพิมพ์.
ชัยเสฏฐ์ พรหมศรี. (2550). การจัดการความขัดแย้งในองค์กร. กรุงเทพมหานคร : ออฟเซ็ทครีเอชั่น.
ดารณี ศรีจันทร์อ่อน. (2543). การมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นของสมาชิกสภาเทศบาลใน เขตอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี. ปัญหาพิเศษรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขานโยบายสาธารณะ, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา.
ธีระพงษ์ แก้วหาวงษ์. (2543). กระบวนการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง : ประชาคม ประชาสังคม. พิมพ์ครั้งที่ 6. ขอนแก่น : คลังนานาวิทยา.
บวรศักดิ์ อุวรรณโณ. (2563). วิธีสืบค้นวัสดุสารสนเทศ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://www.idis.ru.ac.th/report/index.php?topic (วันที่เข้าถึง 16 กันยายน 2563).
ไพศาล วิสาโล. (2538). ศาสตร์และศิลป์แห่งการระงับความขัดแย้ง. กรุงเทพมหานคร : เรือนแก้วการพิมพ์.
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (2556). ทฤษฎีและแนวคิดในการพัฒนาประเทศ. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก :web.agri.cmu.ac.th/extens/Course_all/Course/352721/8.pdf. (วันที่เข้าถึง 21 เมษายน 2565).
วันชัย วัฒนศัพท์. (2550). ความขัดแย้ง หลักการและเครื่องมือแก้ปัญหา. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3. ขอนแก่น : โรงพิมพ์ศิริภัณฑ์ออฟเซ็ท.
ศศิวิมล ศศิวรกุล. (2561) การศึกษาการจัดการความขัดแย้งของครูในโรงเรียนกลุ่มอำเภอเมือง จังหวัดระยอง. มหาวิทยาลัยบูรพา สาขาบริหารการศึกษา.
ศุภณัฐ เพิ่มพูนวิวัฒน์. (2550). วงจรความขัดแย้ง. สถาบันพระปกเกล้า.
สายกุหลาบ จรัญศิริไพศาล. (2561). ผู้นำสตรีกับการจัดการความขัดแย้งในชุมชนแถบลุ่มแม่น้ำโขง. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ.
สายพิณ ภูมิประโคน. (2561). การศึกษาการจัดการความขัดแย้งของผู้บริหารโรงเรียน.มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. ศูนย์วิทยบริการ.
สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล. (2550). ศัพท์บัญญัติเกี่ยวกับการแก้ปัญหาและความขัดแย้ง. พิมพ์ ครั้งที่ 4. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า.
องค์การบริหารส่วนตำบลควนสุบรรณ. (2561-2565) แผนพัฒนาท้องถิ่น. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก http://www.khuansuban.go.th/develop_plan (วันที่เข้าถึง 30 กรกฎาคม 2565).
อรุณ รักธรรม. (2537). องค์การ: พฤติกรรมความขัดแย้ง. คณะรัฐศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์.
Moore, Christopher W. (2003). The Mediation Process. 3 ded. San Francisco: Jossey- BassAiley Imprint.
Rostow, W.W. (1960). The Stages of Economic Growth: A Non-Communist Manifesto. New York: Cambridge University Press.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
