การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาเนื้อหาวิชาฟิสิกส์เรื่องสนามแม่เหล็กจากกระแสไฟฟ้าไหลผ่านลวดตัวนำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา

ผู้แต่ง

  • พันธุ์ศักดิ์ เกิดทองมี สาขาวิชาฟิสิกส์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
  • ภัทรอนงค์ คงช่วย สาขาวิชาฟิสิกส์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
  • อภัสสร เยาว์เหมือน สาขาวิชาฟิสิกส์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
  • อาทิตย์ รักขาว โรงเรียนทุ่งสง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช

คำสำคัญ:

กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น, การจัดการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา, ทักษะการแก้ปัญหาวิทยาศาสตร์

บทคัดย่อ

          การวิจัยครั้งนี้ได้ทำการศึกษาวิธีการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้นร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาเรื่องกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดในรายวิชาฟิสิกส์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 40 คน โดยหลังจากการทดลองการจัดการเรียนรู้แล้วได้ทำการประเมินให้คะแนนทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียนในขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการจัดการเรียนรู้ และยังได้ทำการประเมินความพึงพอใจของประเด็นต่าง ๆ ที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ โดยคะแนนที่ได้จะนำไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์คะแนนเฉลี่ย 5 ระดับ ผลการวิจัยพบว่า  (1) นักเรียนมีทักษะในการแก้ปัญหาเพิ่มสูงขึ้นทุกขั้นตอนตามที่ผู้สอนที่กำหนดให้ โดยก่อนได้รับการจัดการเรียนรู้ คะแนนความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนอยู่ในระดับดีมากร้อยละ 7.5 ระดับปานกลาง ร้อยละ 45.0 ระดับน้อยร้อยละ 45.0 และระดับควรปรับปรุงร้อยละ 2.5 คะแนนหลังจากได้รับการจัดการเรียนรู้ที่อยู่ในระดับดีมากเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 17.5 ระดับดีเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 50.0 และระดับปานกลางเป็นร้อยละ32.5 นอกจากนี้เมื่อพิจารณาทักษะในการแก้ปัญหาตามขั้นของการจัดการเรียนรู้ พบว่าขั้นตอนที่นักเรียนมีคะแนนเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ แนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหามีค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.5 ขั้นการออกแบบวิธีการแก้ปัญหามีค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.1 ขั้นทดสอบประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.0 ขั้นระบุปัญหาหรือสถานการณ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.0 ขั้นนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.0 และขั้นวางแผนดำเนินการแก้ปัญหาเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.8 (2) ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นร่วมกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา มีค่าเฉลี่ยเป็น 4.24 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็น 0.75 ซึ่ง อยู่ในระดับมาก

ประวัติผู้แต่ง

พันธุ์ศักดิ์ เกิดทองมี, สาขาวิชาฟิสิกส์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช

Physics Education Program, Faculty of Education Nakhon Si Thammarat Rajabhat University

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

ฐายิกา ชูสุวรรณ. (2560). ผลการสอนวิชาฟิสิกส์โดยใช้แนวทางการจัดการศึกษาแบบสะเต็มเรื่อง แสงที่มีต่อทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเจตคติทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดกลางในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

ธนภัค แสงมุนี. (2559). การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es). สืบค้นเมื่อ มีนาคม 2564. จาก http://www.Thaischool.in.th.

นิตยารัตน์ คงนาลึก. (2562). เอกสารประกอบการสอนรายวิชาการประเมินผลการเรียนรู้. นครศรีธรรมราช คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช

นรรัชต์ ฝันเชียร. (2563). เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสะเต็มศึกษา(STEM). สืบค้นเมื่อ ธันวาคม 2563. จาก http://www.truplookpanya.com

น้ำเพชร กะการดี. (2560). การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการโดยใช้รูปแบบสะเต็มศึกษาเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

วรันญา วิรัสสะ. (2562). การศึกษาหาความสัมพันธ์ของเจตคติต่อวิทยาศาสตร์กับทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในจังหวัดสิงห์บุรี สังกัดโรงเรียนเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 5. วารสารมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 11(2), 130-141.

วศิณีส์ อิศรเสนา ณ อยุธยา. (2559). เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ STEM Education (สะเต็มศึกษา). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วิชัดชณา จิตรักศิลป์. (2560). การพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์โดยการจัดการเรียนรู้แบบสะ เต็มศึกษาเรื่อง แรง การเคลื่อนที่และพลังงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.(2557). คู่มือกิจกรรมสะเต็ม ระดับมัธยมศึกษาปีที่4-6. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.

สุภาวดี สาระวัน. (2561). สะเต็มกับความหลากหลายทางการศึกษา. สืบค้นเมื่อ 22 ธันวาคม 2563. จาก http://www.scimath.org.

สมชาย อุ่นแก้ว. (2561). วิธีการสอนแบบสะเต็มศึกษา (STEM Education). สืบค้นเมื่อ 22 ธันวาคม 2563. จาก http://www.kids.ru.ac.th.

สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-08-31

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย