Appropriate sports tourism development strategies in Buriram Province After the COVID-19 situation
Keywords:
Development strategies, Sports tourism, Buriram ProvinceAbstract
This study aimed to This research aims to propose appropriate sports tourism development strategies in Buriram Province after the COVID-19 situation. The research uses a qualitative data collection method by organizing meetings with private sector operators and relevant government agencies. These include the Buriram Provincial Administration Organization, the Tourism Authority of Thailand, the Buriram Tourism Industry Council, Buriram United, as well as accommodation, restaurant, and transportation businesses. The research involves brainstorming sessions and scenario analysis to assess the future structure and components of sports tourism, using scenario planning tools to forecast future developments in sports tourism in Buriram Province.
Scenario development from the analysis, the researcher created four scenarios for the development of sports tourism in Buriram Province, which include: Scenario 1: Thailand Sports Center Buriram will become the center for sports tourism in Thailand, hosting major national sports events and training facilities for various sports. Scenario 2: Sports Academy Buriram will develop into a recognized sports academy, focused on the training and development of athletes at various levels. Scenario 3: World Sports Academy Buriram will evolve into a world-class sports training hub, attracting athletes and coaches from around the globe for professional training. Scenario 4: World Sports Tourism Destination Buriram will become a global sports tourism destination, attracting international visitors to witness high-level sporting events and experience sports tourism activities. These scenarios contribute to a vision of the future of sports tourism in Buriram Province and provide guidance for developing strategies for the recovery of sports tourism post-COVID-19. The four proposed strategies are: 1. Thailand Sports Center Strategy Position Buriram as the sports tourism hub of Thailand, hosting international and national sports events, and providing state-of-the-art facilities for athletes. 2. Buriram Sports Academy Marketing Strategy Promote Buriram as a leading sports academy by marketing its training programs and fostering a reputation for developing top athletes. 3. World Sports Academy Marketing Strategy Expand Buriram's sports academy to the international level, attracting foreign athletes to train and develop in the province and 4. World Sports Tourism Destination Strategy Establish Buriram as a top global destination for sports tourism, offering international sports events and tourism experiences related to major sports. The findings from this study offer strategies for developing and revitalizing sports tourism in Buriram Province, especially after the challenges posed by the COVID-19 pandemic. These strategies can be utilized to support the sustainable growth of sports tourism in Buriram, contributing to the province’s long-term development as a premier sports tourism destination.
References
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ศูนย์วิจัยด้านตลาดการท่องเที่ยว. (2563).รายงานผลสำรวจพฤติกรรมท่องเที่ยวคนไทยช่วงสถานการณ์โควิด19 (ข้อมูลสำรวจระหว่างวันที่ 17-20 ก.ค. 63).แหล่งที่มา https://intelligencecenter.tat.or.th/
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2558). รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว ฉบับที่ 1. กรมการท่องเที่ยว. กระทรวงการทองเที่ยวและกีฬา.
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2560). รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว ฉบับที่ 1. กรมการท่องเที่ยว. กระทรวงการทองเที่ยวและกีฬา.
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2562). รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว ฉบับที่ 1. กรมการท่องเที่ยว. กระทรวงการทองเที่ยวและกีฬา.
กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา. (2562). ระบบสถิติท่องเที่ยวของประเทศไทย ค้นเมื่อ 6 มกราคม 2567, จาก https://www.mots.go.th/ewt_dl_link.php?nid=11321.
กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา. (2560). ระบบสถิติท่องเที่ยวของประเทศไทย ค้นเมื่อ 5 มกราคม 2567, จาก https://www.mots.go.th/ewt_dl_link.php?nid=11321
คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ. (2560). ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ.2558- 2560. Retrieved 10 ธันวาคม 2567, from http://mots.go.th/
จุฑาภรณ์ ทองเพ็ง. (2554). ความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวที่มีต่อการจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของวัดโสธร วรารามวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา (รายงานการวิจัย). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
จรัสพล ชนะสิทธิ์ และ อนุจิตร ชินสาร. (2567). การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬาในจังหวัดศรีสะเกษ.วารสารการเมือง การบริหาร และกฎหมาย ปีที่ 16 ฉบับที่ 1.
ธงชัย คล้ายแสง. (2562). การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬาของจังหวัดบุรีรัมย์. วารสารวิชาการรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์.ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2562.
ธรรมศักดิ์ โรจนสุนทร. (2542). สรุปผลการสัมมนาการพัฒนาการท่องเที่ยวภาคเหนือ. กรุงเทพฯ: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.
นลวัชร์ ขุนลา. (2561). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬาของเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
มิ่งสรรพ์ ขาวสะอาด ดนัยธัญ พงษ์พัชราธรเทพ อัครพงศ์ อั้นทอง ณัฐพล อนันต์ธนสาร, อรุณี อินทรไพโรจน์, วรัญญา บุตรบุรี, และบิณฑิรา วลีธนาพันธ์ (2565). การวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของการท่องเที่ยวไทยหลังโควิด-19. มูลนิธิสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ.
ภคนันท์ วระพินิจ และกอบกูล จันทรโคลิกา.(2563). รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงกีฬาในประเทศไทย. วารสารวิชาการเซาธ์อีสห์บางกอก (สาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์), 6(2), 32-44.
ประภัสสร มีน้อย. (2560). รูปแบบและกลยุทธ์การจัดการท่องเที่ยวเชิงกีฬาองภูมิภาคตะวันตกเพื่อรองรับการเข้าสู่ประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
พิชชาพร วงศ์คำ และยุทธพงษ์ ต้นประดู่. (2566). การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์. วิทยานิพนธ์. ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวัฒนธรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
พิมพ์ระวี โรจน์รุ่งสัตย์. (2553). การท่องเที่ยวชุมชน. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
พิชชาพร วงศ์คำ (2566). การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์. ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวัฒนธรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
พยอม ธรรมบุตร. (2549). เอกสารประกอบการเรียนการสอนหลักการทองเที่ยวเชิงอนุรักษ์. กรุงเทพฯ : สถาบันพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์. มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ.
วัชระ เชียงกูล. (2558). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อตอบสนองพฤติกรรม การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวเชิงกีฬา. ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (การจัดการการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ). คณะการจัดการการท่องเที่ยว สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
วัชระ เชียงกูล และเทิดชาย ช่วยบำรุง. (2560). พฤติกรรมการท่องเที่ยวของท่องเที่ยวเชิงกีฬา จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารมนุษยศาสตรและสังคมศาสตร มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 8(1), 90-109.
วีระศักดิ์ สวัสดิ์จันทร์. (2564). การจัดการธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) ในประเทศไทย กรณีศึกษา ผู้จัดการแข่งขันงานวิ่งรายการบางแสนมาราธอน. มหาวิทยาลัยมหิดล.
วรรณา วงษ์วานิช. (2546). ภูมิศาสตร์การท่องเที่ยว. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์.
วรวินทุ ์ สุวัณ ณ เขมรัฐ และคณะ. (2547). ศักยภาพของทรัพยากรการท่องเที่ยวเชิงกีฬาของจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่. รายงานการวิจัย. สำนักงานคณะกรรมการ ส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
วรพรรณ แดงพุธทางกูร และสิฏฐิรัฏฐ์ ใจแก้ว. (2564). การศึกษาพฤติกรรมและแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬาของนักท่องเที่ยวชาวไทย กรณีศึกษา แหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬา อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์. การประชุมวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 14 (pp. 297-307). กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
วันทนีย์ ศรีนวล. (2559). ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์จากมุมมองของนักท่องเที่ยวชาวไทย. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์. ปีที่ 9 ฉบับที่ 1. มกราคม - มิถุนายน 2560.
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย. (2561). โอกาส SME ไทย ชิงตลาดฮาลาลโลก. สืบค้นเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2567, จาก https://www.kasikornbank.com/.../Thai-SME-Opportunity_ Halal-Market.pdf
สายใจ ทันการ สมิหรา จิตตลดากร. (2564). การพัฒนากีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร ปีที่ 10 ฉบับที่ 5 (กรกฎาคม-สิงหาคม 2565).
สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. 2560. รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว. [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา http://www.mots.go.th/ewt_dl_link.php?nid=8404 (2 กันยายน 2567).
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.(2553). เกี่ยวกับสภาฯ. ค้นเมื่อ 20 สิงหาคม 2567. จาก http://www.thailandtourismcouncil.org/th/about.php
สัจจา ไกรศรรัตน์ และ ทัศนีย์ นาคเสนีย์ (2561). กลยุทธ์และแนวทางการใช้กิจกรรมเชิงกีฬา (sport event) ในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาของประเทศไทย. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
สัคคยศ สังขพันธ์. (2563). รูปแบบการบริหารจัดการการท่องเที่ยวกีฬาดำน้ำตามแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของชุมชนท้องถิ่น. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 7(8), 324-334.
อัจฉรา หลาวทอง (2562). นโยบายการพัฒนารูปแบบบูรณาการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กีฬาและนันทนาการกลุ่มจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์และศรีสะเกษ: แผนงานวิจัย: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
อรรถกร จัตุกูล. (2562). บทบาทของชุมชนในท้องถิ่นต่อการพัฒนาตลาดการท่องเที่ยว จังหวัดบุรีรัมย์ กรณีศึกษาชุมชนวนอุทยานเขากระโดง. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. 10(1): 167-182; มกราคม-มิถุนายน.
Mason, P., & Leberman, S. (2000). Local planning for recreation and tourism: A case study of mountain biking from New Zealand's Manawatu region. Journal of Sustainable Tourism, 8(2), 97-115.
Richard W. Butler (1999). Sustainable tourism: A state-of-the-art review, Tourism Geographies: An International Journal of Tourism Space, Place and Environment, 1:1, 7-25.
Gibson, Heather J. (1998). Sport Tourism: A Critical Analysis of Research. Journal of Sport Management Review. 1: 45-76.
Gibson, H. J., Kaplanidou, K., & Kang, S. J. (2012). Small-scale event sport tourism: A case study in sustainable tourism. Sport Management Review, 15(2),160-170.
Buhalis, D. (2000). Marketing the Competitive Destination of the Future – Growth Strategies for Accommodation Establishments in Alpine Regions. Tourism Management, 21 (1). doi:10.1016/S0261-5177(99)00095-3.
Downloads
Published
Issue
Section
License
Copyright (c) 2025 Pacific Institute of Management Science

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
