การนำพระราชบัญญัติจราจรทางบก (เมาแล้วขับ) ไปสู่การปฏิบัติ
คำสำคัญ:
พระราชบัญญัติจราจรทางบก (เมาแล้วขับ), การนำนโยบายไปปฏิบัติบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา พฤติกรรมของผู้ขับขี่และปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรม ของผู้ขับขี่ในการปฏิบัติตามนโยบายการใช้พระราช บัญญัติจราจรทางบก (เมาแล้วขับ) จังหวัดปทุมธานีโดย ใช้แบบสอบถามแบบมีโครงสร้าง จำนวน 920 ตัวอย่าง ผลการศึกษาพบว่า พฤติกรรมของผู้ใช้รถต่อพระราช บัญญัติจราจรทางบก(เมาแล้วขับ) มี 4 รูปแบบ ซึ่งพฤติกรรมตั้งใจไม่ปฏิบัติตามพรบ.และถูกดำเนินคดี พบมากที่สุด รองลงมา ตั้งใจไม่ปฏิบัติตามพรบ.และ ไม่เคยถูกดำเนินคดี, ตั้งใจปฏิบัติตามพรบ.แต่ถูกดำเนิน คดี และตั้งใจปฏิบัติตามพรบ.อย่างเคร่งครัด ปัจจัย ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้รถทั้ง 4 รูปแบบ วิเคราะห์ ด้วย Stepwise multiple regression analysis พบว่า 1. การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่และ การสนับสนุนของผู้นำท้องที่ ส่งผลต่อพฤติกรรมของ ผู้ใช้รถที่ตั้งใจปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 2. การใช้อำนาจ ตัดสินของเจ้าหน้าที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้รถ ที่ตั้งใจปฏิบัติตาม พรบ.แต่ถูกดำเนินคดี 3. มาตรการ, สื่อที่ใช้ในการรณรงค์ และบทลงโทษของพระราช บัญญัติส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้รถที่ตั้งใจไม่ปฏิบัติ ตามพรบ. และไม่เคยถูกดำเนินคดี 4.การปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่, การสนับสนุนของผู้นำท้องที่, สื่อที่ใช้ในการ รณรงค์ และการใช้อำนาจตัดสินของเจ้าหน้าที่ส่งผล ต่อพฤติกรรมของผู้ใช้รถที่ตั้งใจไม่ปฏิบัติตามพรบ. แต่ถูกดำเนินคดี ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการนำนโยบายพระราชบัญญัติจราจรทางบก (เมาแล้วขับ) ไปปฏิบัติ ได้แก่ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และการสนับสนุนของผู้นำท้องที่ มีผลต่อการตั้งใจ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดของผู้ใช้รถ ข้อเสนอแนะเพื่อ ให้ผู้ใช้รถตั้งใจปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ต้องส่งเสริม และพัฒนาให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดำเนินการได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รวดเร็ว เพียงพอและครอบคลุม รวมทั้ง ผู้นำท้องที่ต้องให้ความร่วมมือและนำนโยบายไปปฏิบัติ ในท้องที่อย่างจริงจัง
เอกสารอ้างอิง
กล้า ทองขาว. 2548. การนำนโยบายและแผนการศึกษาไปปฏิบัติ: แนวคิดทฤษฎีและแนวทางการดำเนินงาน.นนทบุรี: สำนักวิชาการมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
อุษา บิ้กกิ้นส์ .(2555). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมเมาแล้วขับของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในเขตกรุงเทพมหานคร.กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ.
Bandura, A. (1969) .Principles of behavior modification. NY: Holt, Rinehart &Winston.
Bandura A.(1977). Social learning theory. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.
Carl E. Van Horn. (1979). Policy Implementation in Federal System, National Goals and Local Implementors. Lexington, Massachusetts : Health and Company.
Global Road Safety partnership. (2007). Drinking and Driving: a road safety manual for decision-makers and practitioners. Geneva: GRSP.
Institute of Alcohol Studies. (2010). Drinking & Driving: IAS factsheet. London: Institute of Alcohol Studies.
James D. Sorg. (1982). A Typology of Implementation Behavior of street- level Bureaucrats.Policy Studies Reviews. Vol.2,3.391-396.
Lu, X., and Pas, E.I. (1999). Socio-Demographics, Activity Participation and Travel Behavior.Transportation Research A 33, 1-18.
Traffic Injury Foundation (TIRF). (2009). Drinking and driving report: Recent trends and programmes. Retrieved 15 October 2012 from http://www.brewersofeurope.org/docs/publications/BI_DrinkDriveRpt074.pdf
Van Meter. Donald S. and Van Horn. Carl E. (1975). The Policy Implementation Process : A Conceptual Framework. Administration and Society. 6 (February) : 445 - 486. Justice Center, Sam Houston State University.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
