การนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของเทศบาลตำบลลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
บทคัดย่อ
การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหาร ศึกษาระดับประสิทธิผลของเทศบาลตำบล และเพื่อศึกษาการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของเทศบาลตำบลลำลูกกากา จังหวัดปทุมธานี
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ บุคลากรและผู้นำท้องถิ่นของเทศบาลตำบลลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย พนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ พนักงานจ้าง ของเทศบาลตำบลลำลูกกากา จังหวัดปทุมธานี รวมถึง ผู้บริหารท้องถิ่น ได้แก่ รองนายกเทศมนตรี เลขานุการนายกเทศมนตรี ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี สมาชิกสภาเทศบาลตำบล กำนัน สารวัตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 156 คน โดยทำการศึกษาข้อมูลจากประชากรทั้งหมด เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scales) ตามแบบของ ลิเคิร์ท สเกล (Likert Scale) ผู้วิจัยดำเนินการเก็บรวบรวมแบบสอบถามได้ 150 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 96.15 จากนั้นทำการวิเคราะห์ข้อมูลระดับการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารและประสิทธิผลของเทศบาลตำบล ด้วยค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) วิเคราะห์การนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของเทศบาลตำบล โดยใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regresstion Analysis) ด้วยวิธี Enter ผลการวิจัย พบว่า
1. การนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารเทศบาลตำบลลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย พบว่า ด้านหลักการตอบสนอง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ ด้านหลักภาระรับผิดชอบ ด้านหลักนิติธรรม ด้านหลักความโปร่งใส ด้านหลักการมีส่วนร่วม ด้านหลักประสิทธิภาพ ด้านหลักประสิทธิผล ด้านหลักความเสมอภาค ด้านหลักการมุ่งฉันทามติ และ ด้านหลักการกระจายอำนาจ ตามลำดับ
2. ประสิทธิผลของเทศบาลตำบลลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านการบริหารจัดการ ด้านผลลัพธ์การดำเนินการ ด้านความพึงพอใจในงาน ด้านการพัฒนาองค์การ และด้านการจัดหาและจัดสรรทรัพยากร ตามลำดับ
3. การนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารงานของผู้บริหาร ด้านหลักประสิทธิภาพ หลักการตอบสนอง และหลักความโปร่งใส ส่งผลทางบวกต่อประสิทธิผลของเทศบาลตำบล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 หลักธรรมาภิบาลด้านหลักประสิทธิผล ส่งผลทางบวกต่อประสิทธิผลของเทศบาลตำบลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สำหรับหลักธรรมาภิบาลด้านหลักภาระรับผิดชอบ ด้านหลักการมีส่วนร่วม ด้านหลักการกระจายอำนาจ ด้านหลักนิติธรรม ด้านหลักความเสมอภาค ด้านหลักการมุ่งฉันทามติ ส่งผลต่อประสิทธิผลของเทศบาลตำบล อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ทั้งนี้ สมรรถนะหลักทั้ง 10 ตัวแปรร่วมกันทำนายประสิทธิผลของเทศบาลตำบลได้ร้อยละ 62 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
เอกสารอ้างอิง
บุษบง ชัยเจริญวัฒนะ และคณะ, 2550. ตัวชี้วัดธรรมาภิบาล. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ:สถาบันพระปกเกล้า.
วิชัย แหวนเพชร. 2544. มนุษย์สัมพันธ์ในการบริหารอุตสาหกรรม. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ธรรกมล.
พันตำรวจเอกหญิง ศรีสกุล เจริญศรี. 2558. ธรรมาภิบาลวัฒนธรรมองค์การ กับประสิทธิผลองค์การของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ. วิทยานิพนธ์ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. (2551). คู่มือการประเมินผลการปฏิบัติงาน. กรุงเทพฯ: บริษัท พี.เอ.ลีฟวิ่ง จำกัด.
อภิชาติ โชติชัชวาลกุล. (2550). หลักธรรมาภิบาลกับการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบล กรณีศึกษาในเขตอำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี. รายงานการศึกษา อิสระรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
