ภาวะผู้นำขององค์กร นวัตกรรมการจัดการและความผูกพันของ พนักงานต่อองค์กรที่มีผลต่อประสิทธิผลธุรกิจเทคโนโลยี สารสนเทศในประเทศไทย

ผู้แต่ง

  • สุรเชษฐ์ สุชัยยะ วิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

คำสำคัญ:

ภาวะผู้นำขององค์กร, นวัตกรรมการจัดการ, ความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร, ประสิทธิผลธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับของภาวะผู้นำขององค์กร นวัตกรรมการจัดการ และความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานที่มีผลต่อ ประสิทธิผลธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศในประเทศไทย 2) ความสัมพันธ์ของ ภาวะผู้นำขององค์กร นวัตกรรม การจัดการและความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานที่มี ผลต่อประสิทธิผลธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศใน ประเทศไทย แบบของการวิจัยและพัฒนา โดยการผสม ผสานวิธีวิจัยเชิงคุณภาพและวิธีวิจัยเชิงปริมาณ ใช้ ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญคือ พนักงานในธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ 1) แบบสัมภาษณ์เชิงลึก วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์ด้วยเทคนิคแบบ 3 เส้า (Triangle) แล้วทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคการ วิเคราะห์เชิงเนื้อหา ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ ประชากร คือ ผู้ที่ประกอบอาชีพในธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ใน เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 35,000 คน กลุ่มตัวอย่าง พนักงานและผู้ประกอบการ ผู้บริหารใน ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 412 คน วิธีการสุ่ม ตัวอย่าง วิธีสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ โปรแกรม LISREL Version 8.72 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ สถิติพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าตํ่าสุด ค่าสูงสุดค่าเฉลี่ย ( gif.latex?\bar{x} ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation: S.D.) สามารถดูค่าที่ Outlier ตรวจสอบที่ ค่าเฉลี่ย ( gif.latex?\bar{x} ) ซึ่งต้องมีค่าสูงกว่าค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation: S.D.) และการวิเคราะห์สมการโครงสร้างเป็นเทคนิคการวิเคราะห์ตัวแปรพหุ ซึ่งรวม เอาการวิเคราะห์องค์ประกอบ (factor analysis) และ การวิเคราะห์ถดถอยพหุ (multiple regression) ผล การศึกษาพบว่า 1) ระดับของตัวแปรที่ทำการศึกษาใน แบบจำลองสมการโครงสร้าง พบว่า ตัวแปรนวัตกรรม การจัดการ มีค่าสูงที่สุด อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.46 รองลงมาคือ ภาวะผู้นำขององค์กร มี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.36 ประสิทธิผลธุรกิจเทคโนโลยี สารสนเทศ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.29 และความผูกพันของ พนักงานต่อองค์กร มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.27 เมื่อทำการ ตรวจสอบการกระจายของข้อมูลด้วยการพิจารณาค่า เบี่ยงเบนมาตรฐานพบว่าตัวแปรความผูกพันของ พนักงานต่อองค์กรข้อมูลมีการกระจายตัวมากที่สุด มี ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ .50 รองลงมาคือ ภาวะ ผู้นำขององค์กร มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ .45 นวัตกรรมการจัดการ มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ .41 และประสิทธิผลธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่า กับ .39 2) ภาวะผู้นำ การ เปลี่ยนแปลงมีความสัมพันธ์กับนวัตกรรมการจัดการ ความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรและประสิทธิผล ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.05 โดยเป็นความสัมพันธ์ในเชิงบวก สำหรับ นวัตกรรมการจัดการมีความสัมพันธ์กับประสิทธิผล ของธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติ ที่ระดับ 0.05 โดยเป็นความสัมพันธ์ในเชิงบวก และ ความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรมีความสัมพันธ์ต่อ ประสิทธิผลของธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีนัย สำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.05 โดยเป็นความสัมพันธ์ใน เชิงบวก อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมการจัดการ ไม่มีความ สัมพันธ์ต่อความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรแต่ ประการใด โดยแบบจำลองสมการโครงสร้างมีความ สอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ในระดับที่ยอมรับได้ โดยมีค่า GFI= 0.98, AGFI = 0.97, Chi-Square= 34.10, degree of freedom = 26 และ RMSEA = 0.028

เอกสารอ้างอิง

ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์. (2553). แนวโน้มการลาออกเพิ่มสูงขึ้น 4 ทางออกแก้ปัญหาสมองไหลกรกฎาคม 2553.http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9530000103300

Bass, B. & Avolio, B. (1994), Improving Organizational Effectiveness through Transformational Leadership, Sage, Thousand Oaks, CA.

Bass, B. M. (1997). Does the transactonal-transformafional leadership paradigm transcend organizational and national boundaries? American Psychologist, 52(3), 130-139.

Bass. B. M & Ronald E. Riggio, (2006) Transformational leadership Copyright © 2006 byLawrence Erlbaum Associates, Inc.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-12-26

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย