ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการมุสลิมขนาดกลางและขนาดย่อมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
คำสำคัญ:
ผู้ประกอบการมุสลิม, ความสามารถในการแข่งขัน, ความสามารถในการปรับตัวบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลเชิงสาเหตุของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการมุสลิมขนาดกลางและขนาดย่อมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีวัตถุประสงค์ได้แก่ 1). เพื่อศึกษาปัจจัยที่เป็นองค์ประกอบของความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการมุสลิมขนาดกลางและขนาดย่อมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2). เพื่อศึกษาระดับของมุมมองของศาสนาอิสลาม ความสามารถทางการตลาด การพัฒนาสินค้า ความสามารถในการปรับตัว และกลยุทธ์การแข่งขันที่ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการมุสลิมขนาดกลางและขนาดย่อมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3). เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านมุมมองของศาสนาอิสลาม ความสามารถทางการตลาด ความสามารถในการปรับตัว การพัฒนาสินค้า ความสามารถในการปรับตัว และกลยุทธ์ทางการแข่งขันที่จะส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการมุสลิมขนาดกลางและขนาดย่อมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
การวิจัยครั้งนี้เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างผู้ประกอบการมุสลิมขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวน 384 ราย โดยอาศัยเทคนิคการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Model) และทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรม SPSS/PC และโปรแกรม LISREL จากการศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการแข่งขัน พบปัจจัยสำคัญจำนวน 5 ปัจจัย ดังนี้ มุมมองศาสนาอิสลาม ความสามารถทางการตลาด ความสามารถในการปรับตัว การพัฒนาสินค้า และกลยุทธ์การแข่งขัน โดยนำปัจจัยดังกล่าวมาตรวจสอบอิทธิพลเชิงสาเหตุกับความสามารถในการแข่งขัน หลังจากการปรับรูปแบบดังกล่าวทำให้โมเดลสมมุติฐานที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ แสดงผลการวิเคราะห์ค่าไคสแควร์ (chi-square) เท่ากับ 704.62 ค่าความน่าจะเป็น (P) เท่ากับ 0.00 ที่องศาอิสระ (df) เท่ากับ 283 ค่าไคสแควร์สัมพัทธ์ (relative chisquare) ซึ่งเป็นอัตราส่วนระหว่างค่าสถิติไคสแควร์กับจำนวนองศาอิสระ (χ²/df) มีค่าเท่ากับ 2.489 ถึงแม้จะมีค่าเกิน 2.00 แต่ก็ไม่เกิน 5 จึงยอมรับได้ในทางสถิติ ค่ารากที่สองของค่าเฉลี่ยความคาดเคลื่อนกำลังสองของการประมาณค่าโดยประมาณ (RMSEA) มีค่าเท่ากับ 0.062 ถึงแม้จะมีค่าเกินกว่า 0.05 แต่ก็อยู่ในระดับที่ดี ยอมรับได้ในทางสถิติ ดัชนีวัดระดับความกลมกลืน (GFI) เท่ากับ 0.92 และค่าดัชนีวัดระดับความกลมกลืนที่ปรับแก้ (AGFI) = 0.91 จากผลการวิเคราะห์แสดงว่า โมเดลสมการโครงสร้างที่ปรับแก้แล้วในภาพรวมสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์
ผลการวิจัยพบว่า การทดสอบสมมติฐานเพื่อตรวจสอบอิทธิพลทางตรงและทางอ้อมของปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการแข่งขัน มีผลดังนี้ (1) มุมมองศาสนาอิสลามมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความสามารถทางการตลาดอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 (2) มุมมองศาสนาอิสลามมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความสามารถในการปรับตัวอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 (3) มุมมองศาสนาอิสลามมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อการพัฒนาสินค้าอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 (4) มุมมองศาสนาอิสลามมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อกลยุทธ์การแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 (5) มุมมองศาสนาอิสลามมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความสามารถในการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 (6) ความสามารถทางการตลาดมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความสามารถในการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 (7) ความสามารถในการปรับตัวไม่มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความสามารถในการแข่งขัน (8) การพัฒนาสินค้ามีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความสามารถในการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 (9) กลยุทธ์การแข่งขันมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความสามารถในการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 (10) มุมมองศาสนาอิสลามมีอิทธิพลทางอ้อมเชิงสาเหตุต่อความสามารถในการแข่งขันผ่านความสามารถทางการตลาด ความสามารถในการปรับตัว การพัฒนาสินค้า และกลยุทธ์การแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01
เอกสารอ้างอิง
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม. (2559). จำนวนผู้ประกอบการ. ค้นเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2559, จาก http://119.63.93.73/smephase3/
Abuznaid, S. (2012). Islamic Marketing: Addressing the Muslim Market, An - Najah Univ. J. Res. (Humanities). Vol. 26(6), pp. 1473-1503.
Ahmed, H. (2006). Islamic Law, Adaptability and Financial Development. Islamic Economic Studies, Vol. 13, No. 2
Al-Salem, F. H. (2009) Islamic financial product innovation, International Journal of Islamic and Middle Eastern Finance and Management Vol. 2 No. 3, pp. 187-200.
Baumol and William J. (1968). Entrepreneurship in Economic Theory. American Economic Review, 58 (2), pp. 64–71.
Garcia – Salmones, L. & Yin, J. Z. (2014). Developing Adaptability for New Competitive Advantage. ASEAN JOURNAL OF MANAGEMENT & INNOVATION, pp. 3-5.
Hoque, N., Mamun, A. and Ahshanul Mamun, A.M. (2013) Dynamics and traits of entrepreneurship: An Islamic approach, World Journal of Entrepreneurship, Management and Sustainable Development Vol. 10 No. 2, pp. 128-142.
Hu, L-T., & Bentler, P. M. (1999). Cutoff criteria for fit indexes in covariance structure analysis: Conventional criteria versus new alternatives. Structural Equation Modeling, 6(1), 1-55.
Keilbach, M. & Sanders, M. (2007). Exploration and Exploitation - The Role of Entrepreneurship and R+D in the Process of Innovation, Jena Economic Research Papers 2007-108,Friedrich-Schiller-University Jena.
Miller, D. (1987), The structural and environmental correlates of business strategy, Strategic Management Journal, 8(1), pp. 55-76.
Porter, M. E. The Competitive Advantage of Nations. New York: Free Press, 1990.
Vazirzanjani, H. R. & Hooshmand, A. (2016). Competitive Advantage Based on New Product Development. International Academic Journal of Business Management, Vol. 3, pp. 66-71.
Waxweiler, R.J., Roscoe, R.J., Archer, V.E., Thun, M.J., Wagoner, J.K. & Lundin,F.E. (1981) Mortality follow-up through 1977 of the white underground uranium mines cohort examined by the US Public Health Service. In: Gomez, M., ed., Radiation Hazards in Mining: Control, Measurement, and Medical Aspects, New York, New York Society of Mining Engineers of the American Institute of Mining, Metallurgical and Petroleum Engineers, Inc., pp.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
