การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเฉพาะกิจโดยใช้กลวิธีแบบ KWL-Plus ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 2 สาขาอิเล็กทรอนิกส์
คำสำคัญ:
แผนการสอนอ่านภาษาอังกฤษ, บทอ่านภาษาอังกฤษเฉพาะกิจ, เทคนิค KWL-Plusบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเฉพาะกิจ โดยการใช้กลวิธีแบบ KWL-Plus ก่อนและหลังเรียนด้วยแผนการสอนภาษาอังกฤษเฉพาะกิจ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น และเพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อแผนการสอนอ่านภาษาอังกฤษเฉพาะกิจโดยใช้กลวิธีแบบ KWL-Plus ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 2 สาขาอิเล็กทรอนิกส์ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 2 สาขาอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคโนโลยีหมู่บ้านครู กรุงเทพมหานคร ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบอย่างง่าย (simple random sampling) 1 ห้องเรียน ได้นักเรียนจำนวน 30 คน ทำการทดลองโดยให้นักเรียนเรียนด้วยแผนการสอนอ่านภาษาอังกฤษเฉพาะกิจโดยใช้กลวิธีแบบ KWL-Plus จำนวน 8 บท ใช้เวลาในการเรียน 4สัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 วัน วันละ 2 คาบเรียน โดยนักเรียนใช้เวลาเรียนบทเรียนละ 2 คาบ รวมทั้งสิ้น 16 คาบเรียน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการสอนอ่านภาษาอังกฤษเฉพาะกิจทางด้านช่างอุตสาหกรรม โดยใช้กลวิธีแบบ KWL-Plus 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเฉพาะกิจโดยใช้กลวิธีแบบ KWL-Plus 3) แบบสอบถามวัดความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อแผนการสอนอ่านภาษาอังกฤษเฉพาะกิจ โดยใช้กลวิธีแบบ KWL-Plus ที่ผู้วิจัยเป็นผู้สร้างขึ้น
การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ t-test เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเฉพาะกิจ โดยการใช้กลวิธีแบบ KWL-Plus ก่อนและหลังเรียนด้วยแผนการสอนภาษาอังกฤษเฉพาะกิจ และใช้ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในการหาค่าระดับความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อแผนการสอนอ่านภาษาอังกฤษเฉพาะกิจ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
ผลการวิจัยพบว่า
1. ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเฉพาะกิจ หลังจากได้รับการฝึกตามแผนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นสูงกว่าก่อนการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
2. กลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นต่อแผนการสอนอ่านภาษาอังกฤษเฉพาะกิจโดยกลวิธีแบบ KWL-Plus ทั้ง 8 บทอยู่ในระดับดีมาก
เอกสารอ้างอิง
เอกสารชุดเทคนิคการจัดกระบวนการเรียนที่ผู้เรียนสําคัญที่สุด “การบูรณาการ.” พิมพ์ครั้งแรก โครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา กรุงเทพมหานคร,2544.
การสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ. กรุงเทพมหานคร; คุรุสภาลาดพร้าว, 2544.
เกียรติชัย ยานะรังสี. “ผลของการสอนแบบ KWI PLUS ที่มีต่อความเข้าใจในการอ่านและความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5” วิทยานิพนธ์ ศษ.ม (การสอนภาษาอังกฤษ) เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2540.
ชลธิชา จันทร์แก้ว. “การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค KWL Plus.”วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร,2549
Barrett, More than Meets the Eye Foreign Language Reading : Theory and Practice. New Jersy : Prentice – Hall, Inc., 1989.
Carr Eileen and Ogle Donna.“K-W-I Plus: A Strategy for comprehension and Summarization,” Journal of Reading. 30, 1(April 1987) : 626-631.
Carrell, Partricia .Lo. “The Effects of Rhetorical Organization and BSL readers, “TESOL Quarterly 18, 3 (September 1984) : 441-46.
Carrel, P., and J. Eisterhold. Schema Theory and ESL Reading Pedagogy : Interactive Approaches to Second Language Reading. Cambridge : Cambridge University Press, 1988.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
