การบริหารจัดการที่ส่งผลต่อสมรรถนะหลักข้าราชการในสายงานเจ้าหน้าที่ คดีพิเศษและพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
คำสำคัญ:
การบริหารจัดการ, สมรรถนะ, กรมสอบสวน, คดีพิเศษบทคัดย่อ
การศึกษาเรื่องการบริหารจัดการที่ส่งผลต่อ สมรรถนะหลักข้าราชการในสายงานเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดี พิเศษ มีวัตถุประสงค์ในการศึกษา 3 ประเด็น ดังนี้ 1) เพื่อ ศึกษาสมรรถนะหลักข้าราชการในสายงานเจ้าหน้าที่คดี พิเศษและพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวน คดีพิเศษ 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนา สมรรถนะหลักข้าราชการในสายงานเจ้าหน้าที่คดีพิเศษและ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางในการพัฒนาสมรรถนะหลัก ข้าราชการในสายงานเจ้าหน้าที่คดีพิเศษและพนักงาน สอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผลการวิจัยพบว่า
ผลการวเิคราะห์ข้อมูล การวิจัยเชิงปริมาณ พบว่า ส่วนที่ 1 ผู้ตอบแบบสอบถามมีสัดส่วนเป็นเพศ ชายและเพศหญิงจำนวนใกล้เคียงกันมีอายรุะหวา่ง 46-50 ปี รองลงมามีอายุน้อยกว่า 40 ปี ส่วนใหญมี่ระดับการศกึษา ปริญญาตรี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนน้อยกว่า 30,000 บาท รองลงมามีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 50,001 – 70,000 บาท ส่วน ใหญ่อยู่ในสายงานเจ้าหน้าที่คดีพิเศษมากกว่าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและดำรงตำาแหน่ง อยู่ในระดับ ชำนาญการ และส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการทำงาน ระหว่าง 4 – 6 ปี รองลงมามีประสบการณ์ในการทำงาน ระหว่าง 1 – 3 ปี
ส่วนที่ 2 ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหาร จัดการของกรมสอบสวนคดีพิเศษในการพัฒนาสมรรถนะ หลักข้าราชการในสายงานเจ้าหน้าที่คดีพิเศษและพนักงาน สอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในภาพรวม มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก และพบว่าทุกด้านมี ระดับความคิดเห็นในระดับมาก ได้แก่ ด้านงบประมาณ ด้านบริหารจัดการ และด้านบุคลากร ตามลำดับ
ส่วนที่ 3 ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับสมรรถนะ หลักข้าราชการในสายงานเจ้าหน้าที่คดีพิเศษและพนักงาน สอบสวนคดพีเิศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในภาพรวม มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากและพบว่า ทุกด้าน มีระดับความคิดเห็นในระดับมาก ได้แก่ ด้านการมุ่งผลสัมฤทธิ์ ด้านการบริการที่ดี ด้านการสั่งสมความ เชี่ยวชาญในอาชีพ ด้านการยึดมั่นในความถูกต้อง ชอบธรรมและด้านการทำงานเป็นทีม
ส่วนที่ 4 ปัจจัยส่วนบุคคล ที่แตกต่างกันส่งผล ตอ่สมรรถนะหลักข้าราชการในสายงานเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่าเพศและอายุ ที่แตกต่างกันส่งผลต่อสมรรถนะ หลักของข้าราชการในสายงานเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่แตกต่างกัน และพบว่า ระดับการศึกษา รายได้เฉลี่ย ต่อเดือน สายงาน ระดับและประสบการณ์ในการทำงานที่แตกต่างกันมีผลต่อสมรรถนะหลักข้า ราชการในสายงาน เจ้าหน้าที่คดีพิเศษและพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในด้านรวมแตกต่างกัน การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ระหว่างการบริหารจัดการ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษในการพัฒนาสมรรถนะ หลักข้าราชการในสายงานเจ้าหน้าที่คดีพิเศษและพนักงาน สอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า ด้านการกำหนดนโยบาย ด้านการบริหารจัดการ ด้านบุคลากรและด้านงบประมาณ ความสัมพันธ์ กับสมรรถนะหลักข้าราชการในสายงานเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดี พิเศษ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 สมการ ถดถอยพหุคูณเชิงเส้นสามารถนำมาเขียนอธิบายได้ดังนี้ สมรรถนะหลักข้าราชการในสายงานเจ้าหน้าที่คดีพิเศษและ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ = 0.387 งบประมาณ + 0.369 การบริหารจัดการ + 0.214 บุคลากร
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยเชิงคุณภาพพบว่าการบริหารจัดการที่ส่งผลต่อสมรรถนะหลักข้าราชการในสายงานเจ้าหน้าที่คดีพิเศษและพนักงาน สอบสวนคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการวางแผนในด้านการกำหนดนโยบาย ด้านการบริหารจัดการ ด้านบริการที่ดี ด้านงบประมาณและด้านสมรรถนะหลัก เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาสมรรถนะหลักของ เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่กำหนดไว้ไ้ด้อย่างเหมาะสม และได้นำเสนอ เป็นกลยุทธ์เพื่อนำไปสู่แนวทางการปฏิบัติงานให้ตรง ตามลักษณะงานดังนี้ 1.นโยบายและยทุธศาสตรท์นี้นำไปสู่ การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม 2.การพัฒนาวิสัยทัศน์ และภาวะผู้นำในระดับบริหาร 3.การบริหารงานบุคคล 4.การบริหารจัดการองค์กรเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนษุย์ 5.การจัดตั้งศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ 6. การจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยและ 7.การจัดสรงบประมาณ เพื่อสนับสนุนโครงการ
เอกสารอ้างอิง
กรมเมืองและการปกครองจังหวัดลพบุรี.
จำเรียง วัยวัฒน์ และเบญจมาศ อำพันธ์.(2540). วินัย 5 ประการพื้นฐานองค์กรเรียนรู้. กรุงเทพฯ : คู่แข่ง.
จินตนา บุญบงการและณัฎฐพันธ์ เขจรนันท์. (2548). การจัดการเชิงกลยุทธ์. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ด ยูเคชั่น.
จุฑาธวัช อินทรสุขศรี. (2551). การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์กับความสามารถในการแข่งขันยุค โลกำภิวัตน์.[ออนไลน์].
บทความมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. [สืบค้น 2 ธันวาคม 2556]. แหล่งที่มา https://kc.hri.tu.ac.th/index.php.
ฉลาด อยู่ยืน.(2552). ทัศนคติต่อประสิทธิผลของโครงการพัฒนาศักยภาพและสมรรถนะของทรัพยากรมนุษย์กรม
ศุลกากรตามยุทธศำสตร์ 5 ปี (พ.ศ.2551-พ.ศ.2555). ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการบริหารการพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี.
ชวนพิศ สิทธิ์ธาดา.(2552). รูปแบบสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีประสิทธิผล. สาขาวิชาบริหารการ
ศึกษา ภาควิชาบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ชวินท์ ธัมมนันท์กุล. (2541). Learning Organization (Workshop): สำหรับฝ่ำยสนับสนุนการ เรียนรู้ธนาคารไทย
พาณิชย์ จำกัด (มหาชน). กรุงเทพฯ : อินเทลลิเจนซ์แอนด์ครีเอทิวิตี้.
ชาครติ สนัทราย. (2552). การพัฒนาสมรรถนะหลักการเป็นผู้นำเชิงกลยทุธข์องผู้จัดการสำขำธนำคำรพำณชิย์ในจังหวัด
เชียงใหม่. ปริญญาปรัชญาการจัดการดุษฎีบัณฑิต สาขาการจัดการธุรกิจ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏ
สวนดุสิต.
ชาญเชาว์ ไชยานุกิจ. (2545). กรมสอบสวนคดีพิเศษ:เอฟบีไอตำรับไทย:ประชาชนได้อะไร?. บทความในจดหมายข่าว
สถาบันกฎหมายอาญา ปีที่ 5 ฉบับที่ 2 เมษายน-มิถุนายน.
อนันต์ พันนึก. (2554). การวิจัยและพัฒนาโปรแกรมพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน, วิทยานิพนธ์
ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
อังศินันท์ อินทรกำแหง และ ทัศนา ทองภักดี. (2549). การพัฒนารูปแบบสมรรถนะด้านผู้นำทางวิชาการของอาจารย์
ในมหาวิทยาลัยของรัฐ เอกชน และในกำกับของรัฐ, งานวิจัยทุนสนับสนุนจาก สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
อำานาจ วัดจินดา. (2549). เทคโนโลยีกำรบริหาร: เครื่องมือเพื่อการพัฒนาองค์กร. วารสาร ดำรงราชานุภาพ, ปีที่ 6, ฉบับที่ 18.
Anonymous, H.K.(1997). Human Resource Management. Core competencies.
Blancero, Donna ; Boroski, John, and Dyer, Lee,Key Competencies for a Transformed Human Resource
Organization: Results of a Field Study. Human Resource Management no.35 (July, 1996): 383-403.
Boam, R. and Sparrow, P.(1992). Designing and achieving Competency. McGraw-Hill, Reading.
Boselie, J.P.and Paauwe, J.(2005). Human Resource Function Competencies in Europeanmultinational
Companies, Personnel Review. Farnborough.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
