กลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
คำสำคัญ:
กลยทุธ์การสร้างภาพลักษณ์, บริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน)บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ เพื่อหาระดับความสำคัญของพฤติกรรมการตัดสินใจใช้บริการของผู้โดยสารและปัจจัยนำไปสู่กลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์ ความสัมพันธ์ระหว่างระดับวามสำคัญพฤติกรรมการตัดสินใจใช้บริการของผู้โดยสารการตัดสินใจใช้กับระดับความสำคัญของปัจจัยนำไปสู่กลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์ และนำเสนอกลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญจำนวน 400 ตัวอย่าง จากผู้โดยสาร 1, 445,464 คน แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลมีความเชื่อมั่น .85 วิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ สถิติที่ใช้คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับการทดสอบสมมติฐานสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์นั้นโดยการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของเพียรสัน และถดถอยเชิงพหุคูณ ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการวิจัยดังนี้
1. ลักษณะพื้นฐานส่วนบุคคลผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศชายจำนวน 313 คน (78.3 %) อายุ 36 – 45 ปี จำนวน 152 คน (38.0%) การศึกษาระดับปริญญาตรี 270 คน (67.5%) อาชีพเจ้าของกิจการ 119 คน (29.8%) และรายได้ต่อเดือน 25,001 – 30,000 บาทขึ้นไปจำนวน 216 คน (54.0%)
2. พฤติกรรมการตัดสินใจใช้บริการในภาพรวมเฉลี่ยและทุกด้านผู้โดยสารให้ความสำคัญมากที่สุด หากพิจารณาระดับความสำคัญของพฤติกรรมการตัดสินใจใช้บริการ พบว่า ลำดับแรกจำนวนครั้งที่ใช้บริการในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา (x̄= 4.54) ด้านการชำระเงิน (x̄= 4.51) ด้านการเลือกใช้บริการ (x̄= 4.50) ด้านการตัดสินใจใช้บริการ (x̄= 4.39) เรียงตามลำดับ
3. ระดับความสำคัญปัจจัยนำไปสู่กลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในภาพรวมเฉลี่ยมีระดับความสำคัญมากที่สุด หากจัดลำดับความสำคัญปัจจัยนำไปสู่กลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์ จากค่าเฉลี่ย พบว่า ลำดับแรกด้านความปลอดภัย (x̄= 4.65)ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (x̄= 4.50) ด้านตรายี่ห้อ (x̄= 4.40) ด้านความคงเส้นคงวา (x̄= 4.39) ผู้โดยสารให้ความสำคัญมากที่สุด ส่วนด้านผลิตภัณฑ์ (x̄= 4.15) ด้านการประชาสัมพันธ์ (x̄= 4.08) ด้านสัมพันธภาพอันดีกับลูกค้า (x̄= 4.05) ด้านคุณภาพการบริการ (x̄= 4.02) และด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม (x̄= 3.81) ผู้โดยสารให้ความสำคัญมากเรียงตามลำดับเรียงตามลำดับ
4. ผลทดสอบสมมติฐาน พฤติกรรมการตัดสินใจใช้บริการของผู้โดยสาร ด้านการตัดสินใจใช้บริการมีความสัมพันธ์กับปัจจัยนำไปสู่ กลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในภาพรวมเฉลี่ยระดับสูงทิศทาง ส่วนด้านการ เลือกใช้บริการด้าน จำนวนครั้งที่ใช้บริการ และด้านการ ชำระเงินด้ายมีความสัมพันธ์ปานกลางทิศทางเดียวกันอย่าง มีนับสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
5. กลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) = 3.643 + 9.873 ด้านความปลอดภัย + 7.955ด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม + 7.852ด้านผลิตภัณฑ์ + 7.661ด้านการประชาสัมพันธ์ + 7.354ด้านตรายี่ห้อ + 6.873ด้านคุณภาพการบริการ + 6.604 ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม
เอกสารอ้างอิง
ผู้จัดการ (2557). มาเลเซียแอร์ไลน์สวิกฤต! ผู้โดยสาร “โหรงเหรง” ผลาญต้นทุนรายวันเกือบ “70 ล้านบาท”. ผู้จัดการ 26 สิงหาคม 2557.
นวษมณ สุวรรณศรและคณะ. (2555). การศึกษาความเป็นไปได้ในการนำระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001: 2008 มาใช้ในบริษัท โรงงานเหล็กกรุงเทพฯ จำกัด โดยใช้ Balanced Scorecard. คณะบริหารธุรกิจ, มหาวิทยาลัย นอร์ทกรุงเทพ,
วันทนีย์ สิทธิอ่วม และปาริชาติ ราชประดิษฐ์ (2555). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความคาดหวังและการรับรู้คุณภาพ การบริการกับภาพลักษณ์ของโรงแรมในจังหวัดพิษณุโลกตามมุมมองของผู้ใช้บริการ. มหาวิทยาลัยนเรศวร
ศิริน ศรีสิทธิพจน์ . (2554). ประสิทธิผลของการโฆษณาเชิงภาพลักษณ์ของนกแอร์ (Corporate Advertising) ทางโทรทัศน์ ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร .นิเทศศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
สุธานิธิ์ นุกูลอึ้งอารี. (2555). การศึกษาความพึงพอใจในงานของพนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน): กรณีพนักงานบริษัท การบินไทยฯสำนักงานใหญ่ .วิทยานิพันธุ์ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย
สุริศรา แสงอรุณ. (2554). การเปิดรับข่าวสาร การรับรู้ภาพลักษณ์ และความผู้กพันต่อองค์กรของพนักงานบริษัท แอดวานซ์อินโฟร์เซอรว์สิ จำกัด (มหาชน). วิทยานิพันธุ์สาขาวิชาการบริหารสื่อสารมวลชน คณะวารสารศาสตร์ และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์ , (2548). “คนผู้สร้างภาพลักษณ์องค์กร ” . ผู้จัดการรายสัปดาห์ .
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
