กลยุทธ์การแข่งขันของธุรกิจสนามฟุตบอลในร่ม

บทคัดย่อ

               การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษา พฤติกรรมการใช้บริการสนามฟุตบอลในร่ม 2) เพื่อศึกษา ปัจจัยการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันธุรกิจสนาม ฟุตบอลในร่ม 3) เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรม การใช้บริการกับปัจจัยการสร้างความได้เปรียบในการ แข่งขันธุรกิจสนามฟุตบอลในร่ม และ 4) เพื่อเสนอ กลยุทธ์การแข่งขันของธุรกิจสนามฟุตบอลในร่มในเขต กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ครั้งนี้เท่ากับ 385 คน โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ แบบสอบถามเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย โดยใช้มาตรวัด แบบ Likert Scale 5 ระดับ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรม สำเร็จรูปทางสถิติ สถิติที่ใช้คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการจัดลำดับ สำหรับ การทดสอบสมมติฐาน โดยใช้ One Way ANOVA, และ วิเคราะห์ความแตกต่างรายคู่น้อยที่สุดด้วย LSD (Least Significant Different) โดยกำหนดระดับนัยสำคัญทาง สถิติที่ 0.05 หาความสัมพันธ์โดยค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์ เสนอกลยุทธ์การแข่งขันของธุรกิจสนามฟุตบอลในร่ม ด้วยการวิเคราะห์การถดถอยเชิงซ้อนเชิงพหุคูณ ผลการวิจัย ดังนี้ 
              1. ผู้ใช้บริการสนามฟุตบอลในร่มในเขต กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ส่วนใหญ่ มีอายุ 21 - 25 ปี จำนวน 113 คน คิดเป็นร้อยละ 29.4 มีระดับการศึกษา ปริญญาตรี จำนวน 163 คน คิดเป็นร้อยละ 42.3 มีอาชีพ นักเรียน/นักศึกษา จำนวน 188 คน คิดเป็นร้อยละ 48.9 และมีรายได้เฉลี่ย 10,001 – 15,000 บาท จำนวน 153 คน คิดเป็นร้อยละ 39.7 
              2. พฤติกรรมการใช้บริการสนามฟุตบอลในร่ม ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ด้านจำนวนครั้งที่ มาใช้บริการในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่ใช้ บริการ มากกว่า 7 ครั้ง จำนวน 149 คน คิดเป็นร้อยละ 38.7 ด้านผู้ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเช่าสนามฟุตบอลในร่ม พบว่า ส่วนใหญ่มีเพื่อนเป็นผู้มีอิทธิพลในการตัดสินใจเช่า จำนวน 137 คน คิดเป็นร้อยละ 40.8 และด้านค่าใช้จ่าย เฉลี่ยที่ใช้ในการเช่าสนามฟุตบอลในร่มในรอบ 3 เดือน พบว่า ส่วนใหญ่ มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าหรือเท่ากับ 1,000 บาท จำนวน 151 คน คิดเป็นร้อยละ 39.3 
              3. ปัจจัยการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ธุรกิจสนามฟุตบอลในร่มในเขตกรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล ในภาพรวมเฉลี่ยและรายด้านทุกด้าน ผู้ใช้ บริการให้ความสำคัญมาก หากพิจารณาล????ำดับความสำคัญ จากค่าเฉลี่ย พบว่า ลำดับแรก ปัจจัยด้านส่งเสริมการตลาด ด้านความแตกต่างการให้บริการ ด้านความแตกต่างสนาม ฟุตบอลในร่ม ด้านความแตกต่างของทำเลที่ตั้งสนามฟุตบอลในร่ม ด้านต้นทุนต่ำ ด้านความแตกต่างของสิ่ง อำนวยความสะดวก และด้านความแตกต่างของพนักงาน สนามฟุตบอลในร่ม เรียงตามลำดับ 
              4. ผลการทดสอบสมมติฐาน พฤติกรรมการใช้ บริการสนามฟุตบอลในร่มในเขตกรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล ด้านจำนวนครั้งที่มาใช้บริการในรอบ 3 เดือนที่ ผ่านมา ด้านผู้ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเช่าสนามฟุตบอล ในร่ม ด้านค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ใช้ในการเช่าสนามฟุตบอลใน ร่มในรอบ 3 เดือน มีความสัมพันธ์กับปัจจัยการสร้างความ ได้เปรียบในการแข่งขันธุรกิจสนามฟุตบอลในร่มใน เขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ในภาพรวมเฉลี่ย เชิงบวกระดับต่ำ 
               5. กลยุทธ์การแข่งขันของธุรกิจสนามฟุตบอล ในร่มในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล = 2.570 + .309 ปัจจัยด้านส่งเสริมการตลาด + .281 ด้านความแตก ต่างของสิ่งอำนวยความสะดวก + .278 ปัจจัยด้าน ความแตกต่างของทำเลที่ตั้งสนามฟุตบอลในร่ม +.243 ด้าน ความแตกต่างสนามฟุตบอลในร่ม ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 89