อิทธิพลของสื่อดิจิทัลที่มีผลต่อความเชื่อมั่น การบอกต่อ ความชอบ และการจดจำแบรนด์ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี
คำสำคัญ:
สื่อดิจิทัล, การจดจำแบรนด์, ความเชื่อมั่นแบรนด์, การบอกต่อแบรนด์, ความชอบในแบรนด์, มหาวิทยาลัยเอกชนบทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาระดับความเชื่อมั่นในแบรนด์ การบอกต่อ ความชอบ และการจดจำแบรนด์ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี 2) เพื่อเปรียบเทียบระดับความเชื่อมั่นในแบรนด์ การบอกต่อ ความชอบ และการจดจำแบรนด์ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีจำแนกตามปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ และ 3) เพื่อศึกษาระดับอิทธิพลขององค์ประกอบสื่อดิจิทัลที่มีต่อระดับความเชื่อมั่นในแบรนด์ การบอกต่อ ความชอบ และการจดจำแบรนด์ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 และนักศึกษาระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึงในจังหวัดชลบุรี จำนวน 270 คน ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับความเชื่อมั่น การบอกต่อ ความชอบ และการจดจำแบรนด์มหาวิทยาลัยเอกชนโดยรวมอยู่ในระดับมาก 2) ปัจจัยส่วนบุคคลได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา ที่แตกต่างกันจะมีระดับความเชื่อมั่นในแบรนด์ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีที่แตกต่างกัน, อายุ รายได้ต่อเดือน ระดับการศึกษา ที่แตกต่างกันมีผลต่อการบอกต่อแบรนด์ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีที่แตกต่างกัน, เพศ อายุ ที่แตกต่างกันมีผลต่อความชอบในแบรนด์ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีที่แตกต่างกัน, รายได้ต่อเดือน ระดับการศึกษาที่แตกต่างกันจะมีผลต่อการจดจำ แบรนด์ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีที่แตกต่างกัน 3) องค์ประกอบสื่อดิจิทัลมีอิทธิพลต่อระดับความเชื่อมั่นในแบรนด์ การบอกต่อ ความชอบ และการจดจำแบรนด์ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีโดยรวม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
เอกสารอ้างอิง
เคียงชนก บุญสุวรรณ. (2558). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจดจำและการรับรู้ตราสินค้า/ บริการผ่าน
โฆษณาบนเกมออนไลน์ของประชากรในจังหวัดกรุงเทพมหานคร. การค้นคว้าอิสระ (บธ.ม.) บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
จิตติมา จารุวรรณ์. (2551). พฤติกรรมและปัจจัยสำคัญที่มีต่อการซื้อผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภคจากการ
สื่อสารการตลาดในรูปแบบสื่อสังคมออนไลน์. วารสารปัญญาภิวัฒน์ Vol 3 No 2 (2012):
JANUARY – JUNE.
ณฐวัฒน์ คณารักสมบัติ. (2557). การรับรู้สื่อประชาสัมพันธ์ของนักศึกษาที่มีผลต่อการตัดสินใจเข้า
ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สมุทรปราการ. วารสารราชภัฏลำปาง Vol 6 No 1 (2017): มกราคม – มิถุนายน 2560.
นุชจรินทร์ ชอบดำรงธรรม. (2553). อิทธิพลของสื่อโฆษณาใรเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีผลต่อ
กระบวนการตอบสนองของผู้บริโภค. หลักสูตรปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ.
บุหงา ชัยสุวรรณ, (2558) การสื่อสารการตลาดผ่านสื่อสังคม: ภาพรวมและกรอบแนวความคิด. วารสาร
นิเทศศาสตร์และนวัตกรรม นิด้า,2,173-198.
วิภาดา พิทยาวิรุฬห์ และ ณักษ์ กุลิสร์. (2557). สื่อดิจิทัลที่มีอิทธิพลต่อการตอบสนองของผู้บริโภคใน
การเข้าถึงข้อมูลทางการตลาด. วารสารบริหารธุรกิจศรีนคริทรวิโรฒ ปีที่ 5 ฉบับที่ 1.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์และคณะ (2550). พฤติกรรมผู้บริโภค. กรุงเทพฯ: พัฒนาศึกษา.
Angella J. Kim and Eunju Ko. (2012). Do social media marketing activities enhance customer equity?
An empirical study of luxury fashion brand. Journal of Business Research 65(2012) 1480-1486.
Bruno Godey, AikateriniManthioua, Daniele Pederzoli , Joonas Rokka , Gaetano Aiello , Raffaele
Donvito , Rahul Singh. (2016). Social media marketing efforts of luxury brands: Influence on
brand equity and consumer behavior. Journal of Business Research. 9.
Fariborz Rahimnia and Jaleh Farzaneh Hassanzadeh. (2013). The impact of website content
dimension and e-trust on e-marketing effectiveness: The case of Iranian commercial saffron
corporations. Journal Information & Management 50 (2013) 240–247.
Heaney, J-G., Heaney, M.F . (2008), “Services brandimg strategies: using corporate branding to
market educational institutions”, paper presented at the Academy of World Business,
Marketing and Management Development, Rio de Janeiro.
Yamane, Taro.1973. Statistics: An Introductory Analysis. Third edition. Newyork : Harper and
Row Publication.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
