ปัจจัยการสร้างความปลอดภัยกับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในการใช้รถจักรยนต์ ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
คำสำคัญ:
ความปลอดภัย, สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ, รถจักรยนต์บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อศึกษาระดับปัจจัยการสร้างความปลอดภัยกับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในการใช้รถจักรยนต์ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ศึกษาระดับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในการใช้รถจักรยนต์ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ศึกษาปัจจัยการสร้างความปลอดภัยกับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในการใช้รถจักรยนต์ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด และศึกษาข้อเสนอแนะการสร้างความปลอดภัยกับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในการใช้รถจักรยนต์ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดและเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ด จำนวน 397 คน และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และการวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุ โดยวิธี Stepwise นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยใช้วิธีการพรรณนาและอธิบายผล ผลการวิจัย พบว่า 1) ระดับปัจจัยการสร้างความปลอดภัยกับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในการใช้รถจักรยนต์ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ดโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2) ระดับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในการใช้รถจักรยนต์ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 3) ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ปัจจัยการสร้างความปลอดภัยกับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในการใช้รถจักรยนต์ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวมมีค่าความสัมพันธ์อยู่ในระดับต่ำ เท่ากับ .403 4) ตัวแปรปัจจัยการสร้างความปลอดภัยกับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในการใช้รถจักรยนต์ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวม ทั้ง 4 ตัว สามารถอธิบายตัวแปรตาม คือ ความปลอดภัยกับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในการใช้รถจักรยนต์ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ได้ร้อยละ 41.30 มีค่า R2 = .413 และมีค่าของ F เท่ากับ 68.833 มีค่า Adjusted R2 เท่ากับ .407 มีค่า R2 Change เท่ากับ .022 ซึ่งมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ α .05 เมื่อพิจารณาตัวแปรย่อย พบว่า ตัวแปรที่จะอธิบายความปลอดภัยกับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในการใช้รถจักรยนต์ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด โดยเรียงลำดับการเข้าสู่สมการตามความสัมพันธ์ดังต่อไปนี้ คือ ด้านลักษณะถนนและการจราจร (X5) ด้านความรู้ความเข้าใจในกฎระเบียบ (X1) ด้านทัศนคติการใช้รถจักยานยนต์ (X2) และตัวแปรตัวสุดท้ายที่เข้าสู่สมการที่ดีที่สุดของการวิเคราะห์ถดถอยพหุ ได้แก่ ด้านทัศนคติในการใช้ถนน (X3) สามารถเขียนสมการทำนายจากการวิเคราะห์ถดถอยพหุการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ด พบว่า มีตัวแปรที่สำคัญที่เข้าสู่สมการ 4 ตัวแปร สามารถเขียนสมการณ์ในรูปคะแนนดิบและคะแนนมาตรฐานได้ ดังต่อไปนี้
สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบ Y = 1.316+ .231X1 - .180X2 + .173X3 +.486X5
สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน Zr = .549Z5+ .198Z1 -.174 Z2 + .173 Z3
เอกสารอ้างอิง
กฤตพงศ์ โรจน์รุ่งศศิธร. (2549). สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจราจรของผู้ขับขี่ยวดยานในเขตนิคม
อุตสาหกรรมแหลมบัง จังหวัดชลบุรี. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชา
นโยบายสาธารณะ วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา.
กาญจน์กรอง สุอังคะ .(2558).การศึกษาพฤติกรรมการขับขี่ของวัยรุ่นที่มีผลต่อความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถจักรยานยนต์. ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558.สาขาวิชาวิศวกรรมขนส่ง สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.
จุลจิรา มีพรหม. (2553). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันอุบัติเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ของนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสกลนคร. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาสุขศึกษา,บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
นวพร จารุมณี .(2561).การจัดการความปลอดภัยการจราจรทางถนน เพื่อรองรับการเข้าสู่
ประชาคมอาเซียนของอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน. วิทยานิพนธ์การศึกษาหลักสูตร สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
นัชรัศม์ ชูหิรัญญ์วัฒน์. (2555).ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการปฏิบัติตามกฎหมายจราจรของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา.โครงงานตาม หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิตการบริหารงานก่อสร้างและสาธารณูปโภค สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.
บัณฑิต ตั้งกมลศรี .(2559). ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการขับขี่ปลอดภัยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตภาคเหนือ:วิเคราะห์กลุ่มพหุ. ดุษฎีนิพนธ์หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาวิจัย วัดผลและสถิติการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.
ภัทรพล อาจเมือง. (2552). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันอุบัติเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายจังหวัดร้อยเอ็ด.วิทยานิพนธ์ สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการสร้างเสริมสุขภาพ,บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
มงคล มูลพงษ์. (2553). รูปแบบการส่งเสริมการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัยของเยาวชนในประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต,สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค, คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์,มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย.
สมคิด สิริโรจนามณี. (2547). การดำเนินงานเพื่อควบคุมและป้องกันอุบัติเหตุจราจรของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต,บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.).( 2560).รายงานการวิเคราะห์ สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2560
สำมโนประชากรจำหวัดร้อยเอ็ด, (2562).ข้อมูลประชากร. http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/districtList/S010107/th/61.htm .สืบค้นวันที่ 1 กรกฎาคม 2562.
สถานีตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ด. ( 2562).แผนปฏิบัติการประจำปี 2562 .ร้อยเอ็ด.สถานีตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ด.
สุรชัย ตรัยศิลานันท์.(2552). ปัจจัยที่มีผลต่อการรับรู้การจัดการความปลอดภัยของพนักงานโรงงานอุตสาหกรรมพลาสติกในจังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาการจัดการมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.
อัญชณา แจ่มแสงทอง. (2554). ปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยด้านครอบครัวที่มีผลต่อพฤติกรรมป้องกันอุบัติเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ของเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี. วิทยานิพนธ์คหกรรมศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการพัฒนา ครอบครัวและสังคม, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
H.W. Heinrich. ทฤษฎีโดมิโนของการเกิดอุบัติเหตุ Domino Theory . http://thaisafetyengineer.blogspot.com/2014/04/blog-post_4782.html, สืบค้นวันที่ 10 กันยายน 2562.
Yamane,Taro. (1973). Statistics an Introductory Analysis. 3 rded. New York : Harper
& Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
