มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา: ศึกษากรณีกระบวนการออกหมายค้น หรือออกคำสั่งเพื่อยึด อายัด และการเก็บรักษาพยานหลักฐานในคดี
คำสำคัญ:
สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา, หมายค้น, ยึด, อายัดบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎี หลักการทางกฎหมายและกระบวนการออกหมายค้น หรือออกคำสั่งเพื่อยึด อายัด และการเก็บรักษาพยานหลักฐานในคดีทรัพย์สินทางปัญญา ตามกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายต่างประเทศ และประเทศไทย ศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการออกหมายค้น หรือออกคำสั่งเพื่อยึด อายัด และการเก็บรักษาพยานหลักฐานในคดีทรัพย์สินทางปัญญา โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพโดยเป็นการวิจัยข้อมูลจากเอกสารที่ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ ได้แก่ ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์เชิงลึก และข้อมูลทุติยภูมิจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ผลการศึกษา พบว่า เกิดปัญหาทางกฎหมายในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ ปัญหาการกำหนดความหมายของคำว่า “ในกรณีมีเหตุฉุกเฉิน” ในบทบัญญัติมาตรา 29แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ และวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539ปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการออกหมายค้น การยึด อายัด ตามบทบัญญัติมาตรา 29และปัญหาการกำหนดมาตรการทางกฎหมายในการเก็บรักษาเอกสารหรือวัตถุที่จะใช้เป็นพยานหลักฐาน ส่งผลทำให้ผู้ทรงสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งถูกละเมิดสิทธิไม่อาจเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย
เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ดังนั้น ผู้วิจัย จึงเห็นควรให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติมาตรา 29เพื่อขยายความคำว่า “ในกรณีมีเหตุฉุกเฉิน” ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และให้มีการตรากฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์การออกหมายค้น หรือคำสั่งยึด อายัดในคดีทรัพย์สินทางปัญญาเป็นการเฉพาะ การกำหนดให้อำนาจเอกชนสามารถขอออกใบอนุญาตเพื่อทำการค้น ยึด หรืออายัดพยานหลักฐานแทนรัฐได้ รวมถึงการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการจัดเก็บพยานหลักฐานของศาลหรือเจ้าหน้าที่รัฐอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
เอกสารอ้างอิง
กรมทรัพย์สินทางปัญญา.พิธีสารมาดริด (Madrid Protocol) เส้นทางสู่การสร้างตราสินค้าระดับโลก. กรุงเทพมหานคร: กรมทรัพย์สินทางปัญญา,2561.
กรมทรัพย์สินทางปัญญา.คู่มือการใช้งานลิขสิทธิ์เพื่อประโยชน์ของคนพิการ ตามมาตรา 32/4 กรุงเทพมหานคร: กรมทรัพย์สินทางปัญญา,2562.
จุมพล ภิญโญสินวัฒน์. “หลักการและเหตุผลของการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา.” ดุษฎีนิพนธ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,2552.
ณัฐกร วิทิตานนท์.หลักรัฐธรรมนูญเบื้องต้น.กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2557.
บรรเจิด สิงคะเนติ. (2555). หลักพื้นฐานเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์วิญญูชน
บรรเจิด สิงคะเนติ. (2561). หลักกฎหมายมหาชน หลักนิติธรรม/นิติรัฐ ในฐานะ “เกณฑ์” จำกัดอำนาจรัฐ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์วิญญูชน
ประยูร กาญจนดุล.“หลักนิติธรรมไทย” ใน นิติรัฐ นิติธรรม โครงการตำราและเอกสารประกอบการสอน คณะนิติศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,2553.
วิชา มหาคุณ. “อำนาจบริหารและอำนาจตุลาการ: ความมั่นคงของชาติและหลักนิติธรรม” ใน นิติรัฐ นิติธรรม. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.2553.
ศักดา โมกขมรรคกุล. “ความเป็นอิสระของผู้พิพากษา.” บทบัณฑิตย์,52(3), 2539.
พันวิชญ์ โรจนตันติ.“การประสานประโยชน์สาธารณะกับสิทธิเสรีภาพของปัจเจกชนในการตรา กฎหมาย.”วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,2545.
มหิธร กลั่นนุรักษ์, “พนักงานสอบสวนคดีพิเศษกับการใช้อำนาจมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ,” DSI ไตรสาร, ฉบับที่ 1, ปีที่ 6 น. 52 (2557).
Agreement on Trade-Related Aspects of Intellectual Property Rights (TRIPs Agreement)
Copyright, Designs and Patents Act 1988 of UK
Copyright Law of the United States and Related Laws Contained in Title 17 of the United States Code 2016
Patents Act 1990 of Australia
The Statutes of the Republic of Singapore Copyright Act 1987
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
