การพัฒนากิจกรรมละครสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์ของเยาวชน: กรณีศึกษา เยาวชนในชุมชนอาคารทรัพย์สิน 26-7 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
คำสำคัญ:
กิจกรรรมละครสร้างสรรค์, การปฏิสัมพันธ์ทางสังคม, การพัฒนากิจกรรมบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาและศึกษาผลก่อนและหลังการใช้กิจกรรมละครสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของเยาวชนในชุมชนอาคารทรัพย์สิน 26-7 เขตคลองเตย กลุ่มตัวอย่างคือ เยาวชนในชุมชนอาคารทรัพย์สิน 26-7 อายุ 10-15 ปี จำนวน 20 คน ได้มาจากการคัดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แบบวัดพฤติกรรมการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม 2) กิจกรรมละครสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ทางสังคม 3) แบบสังเกตพฤติกรรมการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ผลการวิจัยพบว่า 1) ผู้วิจัยทำการพัฒนากิจกรรมละครสร้างสรรค์ ออกแบบโดยยึดหลักทฤษฎีละครสร้างสรรค์ ผสมผสานกับทฤษฎีการสร้างปฏิสัมพันธ์ ใช้เวลาดำเนินกิจกรรม 4 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 60 นาที 2) ผลการใช้กิจกรรมละครสร้างสรรค์ก่อนและหลังทำกิจกรรม พบว่า พฤติกรรมการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของกลุ่มตัวอย่างก่อนและหลังการทดลองมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 พฤติกรรมปฏิสัมพันธ์ทางสังคมหลังการทดลองมีค่ามากกว่าก่อนการทดลอง โดยมีการพัฒนาพฤติกรรมปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในทุกๆด้าน เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ พฤติกรรมด้านการทำงานกลุ่ม ด้านการติดต่อสื่อสาร ด้านภาวะผู้นำ และด้านการแก้ไขปัญหา ผู้วิจัยพบว่าการใช้กิจกรรมในรูปแบบการสมมติบทบาทสร้างสถานการณ์เพียงรูปแบบเดียว ไม่เพียงพอสำหรับกลุ่มตัวอย่างนี้ ควรมีการใช้กิจกรรมที่อยู่ในรูปแบบเกมการแข่งขันมาช่วยกระตุ้นให้กลุ่มตัวอย่างเกิดความสนใจและกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. (2551). ทักษะด้านการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น. สืบค้นจาก http://www.kriengsak.com/node/1646
นงนุช วิศิษฐ์ธรรมศรี. (2551). การพัฒนาปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างเหมาะสมของเยาวชนในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถีที่มีบุคลิกภาพเก็บตัว-แสดงตัวโดยการใช้กระบวนการฝึกการกล้าแสดงออกร่วมกับการชี้แนะและการเสริมแรงทางบวก. (ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต). สืบค้นจาก http://bsris.swu.ac.th/thesis/461998321RB899f.pdf
นิติธร ปิลวาสน์. (2556). ปฏิสัมพันธ์สร้างสรรค์. สืบค้นจาก http://taamkru.com/th/ปฏิสัมพันธ์สร้างสรรค์/
พนม เกตุมาน. (2558). พัฒนาการวัยรุ่น. สืบค้นจาก http://www.psyclin.co.th/new_page_56.htm
พรรัตน์ ดำรุง. (2550). การละครสำหรับเยาวชน (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พัชรา พยัคฆา. (2557). ผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดของพิซซินีร่วมกับแนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมมือที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาและปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). สืบค้นจาก http://cuir.car.chula.ac.th/bitstream/123456789/46475/1/5483394727.pdf?fbclid=IwAR0eDJvu_ScWIgsoOyOPR8lS2lEFndiZ1NnNx6Qwhbr6EXluzijo28CUdoQ
ภรณี คุรุรัตนะ. (2526). ละครสร้างสรรค์สำหรับเด็ก. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ภาควิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยศรีนคนรินทรวิโรฒประสานมิตร.
วิชิตชัย ศิลพิพัฒน์. (2555). ผลของการฝึกกิจกรรมละครสร้างสรรค์ตามแนวคิดของวินนีเฟร็ด วาร์ดและไบรอัน เวย์ ที่มีต่อพฤติกรรมการไม่กล้าแสดงออกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดทรงธรรม อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ. (ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต). สืบค้นจาก http://thesis.swu.ac.th/swuthesis/Ed_Psy/Vishidchai_S.pdf
วินิรณี ทัศนะเทพ. (2558). จิตวิทยาการแนะแนว. สืบค้นจาก http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/6180
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
