การพัฒนารูปแบบการจัดการโซ่อุปทานของเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี

ผู้แต่ง

  • ปฏิพล หอมยามเย็น คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
  • จันทร์เพ็ญ วรรณารักษ์ คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
  • พงษ์เทพ ภูเดช คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
  • ศิริอร สนองค์ คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ

คำสำคัญ:

การพัฒนารูปแบบการจัดการโซ่อุปทาน, สินค้าเกษตรปลอดภัย

บทคัดย่อ

           จังหวัดสุพรรณบุรีมุ่งเน้นการพัฒนาภาคการเกษตรโดยเสริมสร้างฐานการผลิตภาคเกษตรให้เข้มแข็ง และยั่งยืน ยกระดับการผลิตสินค้าเกษตร และอาหารเข้าสู่ระบบมาตรฐาน และความปลอดภัย สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่ง สอดคล้องกับแนวนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ “Value - Based Economy” หรือ เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ต้องมีการเปลี่ยนจากการเกษตรแบบดั้งเดิม (Traditional Farming) ไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ที่เน้นการบริหารจัดการ และเทคโนโลยี (Smart Farming) โดยเกษตรกรต้องร่ำรวยขึ้น และเป็นเกษตรกรแบบเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneur)

          จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นเขตพื้นที่ที่มีการขยายฐานการผลิตพื้นผักจากแหล่งผลิตเดิม
ที่ประสบปัญหาต่าง ๆ เช่น เกษตรกรที่ปลูกผักเป็นการค้าในเขต อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ทำให้เกษตรกรในเขตเหล่านั้นย้ายฐานการผลิตผัก มาปลูกในจังหวัดสุพรรณบุรี
มากขึ้น กรอปกับเกษตรกรในจังหวัดสุพรรณบุรี มีการปลูกผักกันในหลายพื้นที่ ทั้งนี้เพราะ
มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม โดยมีน้ำชลประทานที่เหมาะสม และใกล้ตลาด การขนส่งสะดวก ทำให้ผักจากจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นผักที่มีคุณภาพ ด้วยความสด ผักที่ปลูกกันมาก ในขณะเดียวกันการสุ่มตรวจสารเคมีตกค้างในผักสดตามท้องตลาด และซุปเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง โดยกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ พบว่า มีสารเคมีตกค้างในผักเกินขีดอันตรายหลายเท่า แม้กระทั่งในผักที่ได้รับการรับรองว่าเป็นผักปลอดภัยก็พบยาฆ่าแมลงจำนวนมาเช่นกัน

          กลุ่มเกษตรกรได้เลือกรูปแบบ ความร่วมมือของสมาชิกเกษตรกรในโซ่อุปทานในการติดตามสินค้า (Directing) โดยความร่วมมือกับสมาชิกภายในโซ่อุปทานสินค้าเกษตรผักปลอดสารพิษ ในการติดตามสินค้า และการย้อนกลับสินค้าจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน โดยการนำเทคโนโลยี QR Code , Bar Code มาปรับใช้ เพื่อควบคุม ติดตาม รักษาคุณภาพ ผักปลอดสารพิษ

            ประโยชน์หลักของ QR Code คือ ความเก่งกาจของ รหัส QR สามารถใช้สำหรับการอะไรและทุกอย่าง กลุ่มเกษตรกรยังมีประโยชน์สำหรับลูกค้า และธุรกิจ จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเงิน และการโฆษณาโดยการกระจาย QR โค้ดไปยังเว็บไซต์หรือ URL ของเกษตรกร ลูกค้าสามารถสแกนโค้ด QR นี้ และช่วยให้พวกเขาในการจัดเก็บข้อมูลสำหรับการอ้างอิงในอนาคต ยังมีอะไรที่มากขึ้น QR Code เกี่ยวกับรหัส QR ที่เกษตรกร สามารถสร้างสะพานเชื่อมในรูปแบบที่แตกต่างกันของการตลาดเข้าด้วยกัน

เอกสารอ้างอิง

กาญจน์สิตา โฆษิตธัญญสิทธิ์ และชนงกรณ์ กุณฑลบุตร. (2556). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกผู้ให้บริการ โลจิสติกส์ในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร และเครื่องดื่ม. RMUTT Global Business and Economics Review, 11(1), 139-157.

ดุษฎี พรหมทัต. (2558). พฤติกรรมการผลิตผักปลอดภัยของเกษตรกรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารวิจัยสหวิทยาการไทย ปีที่ 10 ฉบับที่ 3 พฤศจิกายน - ธันวาคม 2558.

นาวินทร์ แก้วดวง และคณะ. (2560). การผลิตผักปลอดภัยตามการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีของเกษตรในจังหวัดหนองคาย. แก่นเกษตร 45 ฉบับพิเศษ 1.

พิชญดา ดอนสมจิตร. (2556). การวัดคุณภาพบริการของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ประเทศกัมพูชาเปรียบเทียบกับประเทศไทยด้วยเครื่องมือวัดคุณภาพ SERVQUAL. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

มานิต ตันเจริญ. (2558). พฤติกรรมการบริโภคผักปลอดภัยจากสารพิษของประชาชน: ศึกษากรณีตำบล ดอนเจดีย์ อำเภอสามพราน จังหวัดกาญจนบุรี. หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี

วิศิษฏ์ จิตภักดีรัตน์, ธนัญญา วสุศรี, ปภัศร ชัยวัฒน์, ทวีศักดิ์ กฤษเจริญ และจิรชัย พุทธกุลสมศิริ.(2557). การศึกษาคุณภาพการบริการของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในประเทศอินโดนีเซีย. วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ. , 37(1), 77-88.

ศักดิ์ กองสุวรรณ และเชษฐ์ภณัฏ ลีลาศรีสิริ. (2556). ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจจ้างผู้ให้บริการด้าน โลจิสติกส์ของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในจังหวัดสมุทรปราการ. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัย ราชภัฏพระนคร, 4(2), 1-7.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-10-08

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย