ศึกษาผลการบริหารจัดการโครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน อย่างยั่งยืน ของวิทยาลัยชุมชนในภาคเหนือ
คำสำคัญ:
การบริหาร, การจัดการความรู้, ความเข้มแข็ง, ชุมชน, ความยั่งยืนบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลการบริหารจัดการโครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนยั่งยืนของวิทยาลัยชุมชนในภาคเหนือ 2) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารจัดการโครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนของวิทยาลัยชุมชนในภาคเหนือ 3) เสนอแนะข้อคิดเห็นที่มีต่อการบริหาร จัดการโครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนของวิทยาลัยชุมชนในภาคเหนือให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยใช้การวิจัยแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) การวิจัยเอกสาร 2) การสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 2 กลุ่ม ได้แก่ ผู้นำองค์กรชุมชน ผู้นำองค์ปกครองท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่นและผู้นำท้องถิ่นชุมชน ประชาชน ที่เข้าร่วมโครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนยั่งยืนของวิทยาลัยชุมชนรวมจำนวนทั้งสิ้น 24 คนวิเคราะห์ข้อมูลโดยการอุปมานวิเคราะห์และการตีความ สำหรับการวิจัยเชิงปริมาณกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล และประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนยั่งยืนของวิทยาลัยชุมชนจำนวน 320 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการวิจัยพบว่า
1) ผลการบริหารจัดการโครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนยั่งยืนของวิทยาลัยชุมชนในภาคเหนือในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง โดยด้านการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นมีค่าสูงที่สุด รองลงมาได้แก่ ด้านการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ด้านการสร้างภูมิคุ้มกันและด้านการสร้างอาชีพและรายได้ ตามลำดับ
2) ปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารจัดการโครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนของวิทยาลัยชุมชนในภาคเหนือ พบว่า(1) ปัจจัยด้านการนำนโยบายไปปฏิบัติของวิทยาลัยชุมชนในภาคเหนือมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง (2) ปัจจัยการบริหารจัดการมีค่าเฉลี่ยการอยู่ในระดับมากและ (3) ปัจจัยด้านการจัดการโครงการของวิทยาลัยชุมชนในภาคเหนือไปปฏิบัติมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง
3) ปัจจัยด้านการนำนโยบายไปปฏิบัติของวิทยาลัยชุมชนในภาคเหนือปัจจัยการบริหารจัดการและปัจจัยด้านการจัดการโครงการของวิทยาลัยชุมชนในภาคเหนือไปปฏิบัติซึ่งเป็นตัวแปรอิสระ 3 ตัวมีความสัมพันธ์กับผลการบริหารจัดการโครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนยั่งยืนของวิทยาลัยชุมชนในภาคเหนือโดยรวมในระดับสูงสามารถอธิบายความผันแปรของระดับผลการบริหารจัดการโครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนยั่งยืนของวิทยาลัยชุมชนในภาคเหนือโดยรวมได้ ร้อยละ 64.9
4) การบริหารจัดการโครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนของวิทยาลัยชุมชนในภาคเหนือควรมีการเปรียบเทียบผลการบริหารจัดการโครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความอย่างยั่งยืนของวิทยาลัยชุมชนทุกๆภูมิภาคของประเทศไทย นำมาเปรียบเทียบผลการบริหารจัดการโครงการเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและจากกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการ
เอกสารอ้างอิง
ทศพร ศิริสัมพันธ์. (2543). การบริหารผลการดำเนินงาน (Performance Management) ในรวมบทความวิชาการ 100 ปี รัฐประศาสนศาสตร์ไทย. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธีรยุทธ บุญมี. (2541). ธรรมรัฐแห่งชาติ ยุทธศาสตร์กู้หายนะประเทศไทย. กรุงเทพฯ: สายธาร.
บวรศักดิ์ อุวรรณโณ. (2543). การสร้างธรรมาภิบาล (ในสังคมไทย). กรุงเทพฯ: วิญญูชน.
บุญชม ศรีสะอาด. (2535). การวิจัยเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ประเวศ วะสี. (2538). การปฏิรูปทางการเมืองทางออกของประเทศไทย. กรุงเทพฯ. หมอชาวบ้าน
เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ. (2550). นโยบายสาธารณะ. กรุงเทพฯ : บพิธ.
วรเดช จันทรศร.(2547). รัฐประศาสนศาสตร์ : จากอดีตสู่อนาคตของการวิจัยในการพัฒนาการบริหารราชการแผ่นดิน. กรุงเทพฯ : สหายบล็อกและการพิมพ์.
สมบัติ ธำรงธัญวงศ์. (2550). นโยบายสาธารณะ แนวความคิด การวิเคราะห์และกระบวนการ.กรุงเทพฯ : เสมาธรรม.
Anderson, James E. (1994). Public Policy-Making : An Introduction. 2 nd.ed. New york : Houghton Mifflin Company.
Campbell, D.T., and J.C. Stanley. (1963). Experimental and Quasi-Experimental Designs for Research. Chicago : Rand McNally.
Dye, Thomas R. (1984). Understanding public Policy. 5 th.ed. Englewood Cliffs, New Jersey : Prentice – Hall, Inc.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
