การวิเคราะห์องค์ประกอบด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการบริหารโรงเรียนระดับปฐมวัยเอกชน
คำสำคัญ:
องค์ประกอบ, ประสิทธิภาพ, โรงเรียนปฐมวัยเอกชนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับของประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการบริหารโรงเรียนปฐมวัยเอกชน (2) วิเคราะห์องค์ประกอบด้านประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ในการบริหารโรงเรียนปฐมวัยเอกชน (3) นำเสนอแนวทางในการบริหารจัดการโรงเรียนปฐมวัยเอกชน โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสมผสานวิธี (Mixed Method) ดำเนินการวิจัย 3 ระยะคือ ระยะที่ 1 ศึกษาระดับของประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการบริหารโรงเรียนปฐมวัยเอกชนโดยศึกษาแนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างแบบสอบถาม ประชากรได้แก่ ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนปฐมวัยเอกชนที่ผ่านการรับรองการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษา ระดับปฐมวัย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน รอบที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนปฐมวัยเอกชน จำนวน 378 คน โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน และทำการสุ่มอย่างง่าย ระยะที่ 2 วิเคราะห์องค์ประกอบด้านประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ในการบริหารโรงเรียนปฐมวัยเอกชน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ และองค์ประกอบเชิงสำรวจ ระยะที่ 3 นำเสนอแนวทางในการบริหารจัดการโรงเรียนปฐมวัยเอกชน โดยนำข้อมูลจากระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ประกอบกับข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 10 คน มาจัดทำแนวทาง ผลการศึกษาวิจัย พบว่า
1. ระดับของประสิทธิภาพ และระดับของประสิทธิผลในการบริหารโรงเรียนปฐมวัยเอกชน โดยรวมอยู่ในระดับมาก X̄ = 4.19 และ X̄ = 3.95
2. องค์ประกอบเชิงสำรวจ ประสิทธิภาพ มีค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.000 (p< .001) นอกจากนี้ ค่าดัชนีไกเซอร์ – ไมเยอร์ –ออลคิล (Kaiser-Mayer-Olkin Measures of Sampling Adequacy KMO) มีค่าเท่ากับ 0.941 พบว่าจำนวน 4 องค์ประกอบ ได้แก่ การบริหารงานวิชาการ การบริหารงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการบริหารงานทั่วไป
องค์ประกอบเชิงสำรวจประสิทธิผล มีค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.000 (p< .001) นอกจากนี้ ค่าดัชนีไกเซอร์ – ไมเยอร์ –ออลคิล (Kaiser-Mayer-Olkin Measures of Sampling Adequacy KMO) มีค่าเท่ากับ 0.879 พบว่ามี 3 องค์ประกอบ ได้แก่ คุณภาพของเด็ก กระบวนการบริหารและการจัดการ และการจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ
3. แนวทางในการบริหารจัดการโรงเรียนปฐมวัยเอกชนด้านประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 10 แนวทาง และ ด้านประสิทธิผล ประกอบด้วย ประกอบด้วย 9 แนวทาง
เอกสารอ้างอิง
เกษม วัฒนชัย. (2545). การปฏิรูปการศึกษาไทย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ 21 เซนจูรี่.
ถวิล มาตรเลี่ยม. (2544). การปฏิรูปการศึกษาโรงเรียนเป็นฐานการบริหารจัดการ. กรุงเทพฯ: เสมาธรรม.
ทิศนา แขมมณี. (2545). หลักการและการจัดรูปแบบการจัดการศึกษาปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทย. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธเนศ ขำเกิด. (2545). การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน. วารสารส่งเสริมเทคโนโลยีปีที่ 28 ฉบับที่ 160 (ธ.ค.2544-ม.ค.2545) หน้า 148-151.
นริสานันท์ เดชสุระ. (2552). “รูปแบบการบริหารโรงเรียนสาธิตปฐมวัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏ” ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการแห่งชาติ. (2547). พระราชบัญญัติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. (10 เมษายน 2547)
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาพื้นฐาน. (2553). แนวทางการดำเนินงาน โรงเรียนมาตรฐาน สากล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ ชุมนุมสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย.
A. Godon and Browne (1993). Beginnings and Beyond. New York: Delmar, p. 76-77.
Hoy and Miskel. (2008). Educational Administration: Theory, Research, and Practice. New York: McGraw-Hill.
MacGilcheist. B, Myers, K and Reed. J. (2004). The Intelligent ScThe United State of America: Paul Chapman Publishing Ltd,.
Mortimore, P. et al. (2004). Primary School Leadership in Context. London: Routlede
Sharon G.Pierson. (2009). A Model school Alabama state college laboratory hight school: A Study of African Americans Dedication Educational Excellence During Segregation Journal of Education
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
