การวัดมูลค่า ตามกรอบแนวคิดสำหรับการรายงานทางการเงิน (ปี 2564)

บทคัดย่อ

          กรอบแนวคิดสำหรับการรายงานทางการเงินฉบับใหม่ ที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในประเทศไทยปี 2564 ได้กำหนดเกณฑ์การวัดมูลค่าองค์ประกอบของงบการเงินไว้ การวัดมูลค่าคือการกำหนดจำนวนที่เป็นตัวเงินเพื่อรับรู้องค์ประกอบของงบการเงินในงบแสดงฐานะการเงิน และงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ การวัดมูลค่าจะเกี่ยวข้องกับการเลือกใช้เกณฑ์ในการวัดค่าต่างๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างกันในลักษณะที่ไม่เหมือนกันซึ่งเกณฑ์ในการวัดค่าต่าง ๆ มี  3 หลักเกณฑ์ ดังนี้

1. การวัดมูลค่าด้วยราคาทุนในอดีต (Historical cost measurement bases)
2. การวัดมูลค่าด้วยมูลค่า ณ ปัจจุบัน (Current value measurement bases)
          2.1    การวัดด้วยมูลค่ายุติธรรม (Fair value)
          2.2    มูลค่าการใช้และมูลค่าปฏิบัติตามภาระให้แล้วเสร็จ (value in use (for assets) ,  fulfilment value (for liabilities))
          2.3    ต้นทุนปัจจุบัน (Current cost)

          ราคาทุนในอดีต เป็นมูลค่าที่สะท้อนถึง ราคาทุน ณ วันที่เกิดรายการครั้งแรก ของสินทรัพย์ ณ เวลาที่ได้มาหรือสร้างกล่าวคือเป็นมูลค่าของต้นทุนทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการได้มาหรือสร้างสินทรัพย์ ประกอบด้วยสิ่งตอบแทนที่จ่ายไปให้ได้มาหรือสร้างสินทรัพย์และต้นทุนการทำรายการ ราคาทุนในอดีตของหนี้สินเมื่อเกิดขึ้นหรือเข้ารับภาระคือสิ่งตอบแทนที่ได้รับเมื่อหนี้สินเกิดขึ้นหรือกิจการเข้ารับภาระหักต้นทุนการทำรายการ ดังนั้นราคาทุนในอดีต จึงเป็นเกณฑ์เบื้องต้นในการวัดค่าสำหรับสินทรัพพย์ หรือหนี้สิน ณ วันที่เกิดรายการ และวันรายงานทางการเงิน
          มูลค่า ณ ปัจจุบัน (Current Value) เป็นมูลค่าที่มีความหมายกว้างกว่ามูลค่าปัจจุบัน (Present Value) ที่ระบุไว้ในกรอบแนวคิดฉบับเดิม เนื่องจากมูลค่าปัจจุบัน (Present Value) ตามกรอบแนวคิดฉบับเดิม เป็นมูลค่าปัจจุบันของค่าเงินในอนาคตภายใต้ช่วงเวลาและอัตราผลตอบแทนที่ได้กำหนดไว้ แต่มูลค่า ณ ปัจจุบัน เป็นการใช้มูลค่า ที่ให้ข้อมูลที่เป็นตัวเงินเกี่ยวกับสินทรัพย์ หนี้สิน รายได้ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องที่ใช้ข้อมูลที่ปรับปรุงให้สะท้อนสภาพ ณ วันที่วัดมูลค่า ซึ่งแตกต่างจากราคาทุนในอดีต เนื่องจากการปรับปรุงมูลค่า ณ ปัจจุบันของสินทรัพย์และหนี้สินให้สามารถสะท้อนการเปลี่ยนแปลงประมาณการกระแสเงินสดและปัจจัยอื่นที่สะท้อนในมูลค่า ณ ปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่วัดมูลค่าครั้งก่อน กับการวัดมูลค่าในเวลาต่อมา