แรงจูงใจและกลยุทธ์ธุรกิจ: เรื่องเล่าความสำเร็จจากผู้ประกอบการค้าเหล็กและวัสดุก่อสร้าง
คำสำคัญ:
ผู้ประกอบการ, ธุรกิจค้าเหล็กและวัสดุก่อสร้าง, การวิจัยแนวเรื่องเล่าบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาแรงจูงใจของผู้ประกอบการค้าเหล็กและวัสดุก่อสร้างที่ประสบความสำเร็จ และ 2) เพื่อค้นหากลยุทธ์ที่ทำให้การประกอบธุรกิจค้าเหล็กและวัสดุก่อสร้างประสบความสำเร็จ ผู้วิจัยทำการวิจัยเชิงคุณภาพ ตามแนวทางการวิจัยแนวเรื่องเล่า รวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ คุณตรง ศรีวรเวทย์ ร่วมกับการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม และการศึกษาเอกสารเพิ่มเติม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า แรงจูงใจในการประกอบธุรกิจค้าเหล็กและวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ แรงจูงใจจากความต้องการความมั่นคงของชีวิต แรงจูงใจที่ตั้งอยู่บนความคาดหวังของผู้อื่น และแรงจูงใจที่ต้องการสร้างประโยชน์ต่อสังคม กลยุทธ์ที่ทำให้การประกอบธุรกิจค้าเหล็กและวัสดุก่อสร้างประสบความสำเร็จ ได้แก่ กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยง กลยุทธ์การตลาด และกลยุทธ์ทางทรัพยากรมนุษย์
เอกสารอ้างอิง
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า. (2562). ประมวลและวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจขายวัสดุก่อสร้าง.
สืบค้าเมื่อ 24 กันยายน 2563 จาก ttps://www.dbd.go.th/download/document_file/Statisic/
/T26/T26_201907.pdf
จิระพงค์ เรืองกุน. (2562). การออกแบบการวิจัย: แนวทางการวิจัยเชิงปริมาณ เชิง คุณภาพ และผสานวิธี. นนทบุรี: เนชั่นไฮย์ 1954.
ชนิศา มณีรัตนรุ่งโรจน์. (2557). การปรับตัวของธุรกิจครอบครัวค้าปลีกวัสดุก่อสร้างใน จังหวัดนครราชสีมา.วารสารเทคโนโลยีสุรนารี Suranaree Journal of Social Science. 8(2), 71-85.
ธชิษา ศรีจอมทอง อรพิณ สันติธีรากุล และเขมกร ไชยประสิทธิ์. (2562). ปัจจัยแรงจูงใจที่ มีผลต่อการตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ตอัพของผู้ประกอบการในจังหวัด เชียงใหม่. วารสารปัญญาภิวัฒน์. 11(3), 15-29.
ปณิธิ คูตระกูล ศรัญญา รักสงฆ์ และอัจฉรียา อิสระไพบูลย์. (2561). ความสัมพันธ์ ระหว่าง ประสิทธิผลช่องทางการตลาดกับผลการดำเนินงานของธุรกิจจำหน่าย วัสดุก่อสร้างในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏรอยเอ็ด. 12(2), 121-133.
พิมพ์ลิขิต ทองรอด. (2555). การบริหารทรัพยากรมนุษย์เชิงสร้างสรรค์: กรณีศึกษาบริษัท อินเด็กซ์ครีเอทีฟวิลเลจ. วารสารรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ กาฬสินธุ์. 1(2), 63-102.
วิจัยกรุงศรี. (2562). แนวโน้มธุรกิจ/อุตสาหกรรมปี 2562-64: ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง. สืบค้น เมื่อ 24 กันยายน 2563 จาก https://www.krungsri.com/bank/getmedia/dfd2db4c-fd30-4be1-9840-
d908cda2/IO_Construction_Materials_190531_TH_EX.aspx
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย. (2559). ธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง ปรับกลยุทธ์รุกและรับฝ่าเศรษฐกิจ. สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน 2563 จาก ttps://www.kasikornbank.com/th/business/sme/KSME
Knowledge/article/KSME/AnalysisDocument/ConstructionMaterialStrat egy.pdf
สราลี ตังตระกูลไพศาล และจินตนา สมสวัสดิ์. (2558). การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อพัฒนาธุรกิจร้านค้าวัสดุก่อสร้าง กรณีศึกษา หจก. ส. เจริญไพศาลโลหะ จังหวัดหนองคาย. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ หาวิทยาลัย ขอนแก่น. 8(1), 135-150.
สานิตย์ หนูนิล. 2561. การสร้างความผูกพันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย: ปัจจัยสู่ ความสำเร็จในการรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร. วารสารนักบริหาร. 38(1), 37-45.
Creswell, J. W. 2018. Research Design: Qualitative, Quantitative, and Mixed Methods Approaches. (5th ed.). Los Angeles: SAGE.
Doanh, D. C. & Bernat, T. (2019). Entrepreneurial Self-Efficacy and Intention among Vietnamese Students: A Meta-Analytic Path Analysis Based on the Theory of Planned Behavior. Procedia Computer Science. 159, 2447-2460.
Eriksson, P. & Kovalainen, A. (2016). Qualitative Methods in Business Research. (2nd ed.). Los Angeles: SAGE.
Liu, Y. (2020). The Micro-Foundation of Global Business Incubation: Stakeholder Engagement and Strategic Entrepreneurial Partnerships. Technological Forecasting and Social Change.
, 1-10
McClelland, D. C. (1987). Human Motivation. New York: Cambridge University Press.
Reeder, W. (1971). Partial Theories from the 25 Years Research Program on Directive Factors in Believer and Social Action. New York: Wiley.
Yang, J. (2013). The Theory of Planned Behavior and Prediction of Entrepreneurial Intention among Chinese Undergraduates. Social Behavior and Personality: An International Journal. 41(3), 367-376.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
