การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์

ผู้แต่ง

  • สมชัย ธรรมารัตน์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
  • กมลพร กัลยาณมิตร คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

คำสำคัญ:

การมีส่วนร่วมของประชาชน, การอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์

บทคัดย่อ

          การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ (2) เพื่อศึกษาปัญหา/อุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 17 คนที่คัดเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling) จากผู้บริหารระดับนโยบาย ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร และการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยเป็นอย่างดี ผลการศึกษาพบว่า

        วัตถุประสงค์ข้อ 1 เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ สรุปได้ว่า 1) ประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ได้มีส่วนร่วมอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทย โดยในปัจจุบันการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยเพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีต เพราะประชาชนมีความรู้มากขึ้น และมีความตระหนักในคุณค่าความสำคัญของมรดกสถาปัตยกรรมไทย อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการที่รัฐธรรมนูญแห่งชาติมีบทบัญญัติให้สิทธิแก่บุคคลและชุมชนในการจัดการดูแลรักษามรดกสถาปัตยกรรมโบราณสถานซึ่งเป็นมรดกวัฒนธรรมของชาติ 2) การส่งเสริมและสนับสนุนจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมีความสำคัญต่อการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทย คือ ทำให้เกิดโครงการอนุรักษ์ และการอนุมัติโครงการต่างๆ การสนับสนุนงบประมาณ การสนับสนุนบุคลากร หรือสนับสนุนวิทยากร ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกระดับ ผ่านกิจกรรม โครงการ ทั้งยังผลักดันให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมมือกับรัฐเพื่อดูแลคุ้มครองมรดกวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมไทย 3) ภาคเอกชนมีส่วนร่วมและสนับสนุนการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทย โดยการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการอนุรักษ์สถาปัตยกรรม แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรธุรกิจ ซึ่งหน่วยงานของรัฐบาลได้ใช้นโยบายการสร้างแรงจูงใจด้านมาตรการลดหย่อนภาษี เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เอกชนบริจาคเงิน หรือสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ 4) ความรู้ความเข้าใจของประชาชน มีความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทย เพราะหากประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของงานอนุรักษ์ก็จะทำการอนุรักษ์ได้อย่างถูกต้อง หากไม่มีความรู้ที่เพียงพอก็อาจจะทำให้โบราณสถานเสียหายได้ ความรู้ความเข้าใจของประชาชนที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะถ้าประชาชนเห็นคุณค่า เกิดความรักความผูกพัน และหวงแหน ก็จะนำไปสู่การปกป้องคุ้มครองมรดกสถาปัตยกรรมไทยนั้นๆ ไว้ เพื่อ        ส่งต่อให้คนรุ่นหลังต่อไป 5) การสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ มีความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทย เนื่องจากเป็นการให้ความรู้ และส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความรู้สึกรัก หวงแหน และอยากดูแลรักษาสถาปัตยกรรมไทยบริเวณพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ให้คงคุณค่าไว้ 6) ความตระหนักและความรู้สึกของการเป็นเจ้าของ มีความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทย ทำให้ประชาชนเกิดจิตสำนึก ความรัก ความรู้สึกหวงแหน และพร้อมจะร่วมกันปกป้อง อนุรักษ์ สมบัติทางศิลปะและวัฒนธรรมของชาติต่างๆ เหล่านี้ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมสืบต่อไป 7) การจัดกิจกรรมกระตุ้นจิตสำนึกของการอนุรักษ์ มีความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทย มีความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฯ มาก เพราะช่วยสร้างความรู้ ความสัมพันธ์ การสื่อสาร และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้กับประชาชน ทั้งยังทำให้ประชาชนเกิดความสนใจและเข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐในการดำเนินการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยบริเวณพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ 8) การสร้างโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม มีความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทย มีความสำคัญ เพราะการที่สถาปัตยกรรมไทยอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์จะคงอยู่ตลอดไปได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายร่วมกัน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และความเข้มแข็งของชุมชนในพื้นที่ที่มีส่วนร่วมสำคัญในการอนุรักษ์ ช่วยกันดูแลรักษาให้คงสภาพเดิม ไม่ให้เกิดความเสื่อมโทรม

              วัตถุประสงค์ข้อ 2 เพื่อศึกษาปัญหา / อุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ สรุปผลการศึกษาได้ดังนี้ (1) ประชาชนขาดความรู้ในการอนุรักษ์ ขาดการทำความเข้าใจคุณค่าทางวัฒนธรรม (2) การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ยังน้อย (3) การขาดงบประมาณ (4) การคุกคามโดยมนุษย์และโดยธรรมชาติ ทำให้เกิดความเสียหาย (5) ขาดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในการดำเนินการอนุรักษ์ และ (6) บุคลากรของหน่วยงานภาครัฐยังไม่เพียงพอ

เอกสารอ้างอิง

ชาย โพสิตา. (2550). ศาสตร์และศิลป์แห่งการวิจัยเชิงคุณภาพ. สถาบันวิจัยประชากรและสังคม. มหาวิทยาลัย มหิดล.

พลอยภัทรา ตระกูลทองเจริญ. (2557). การศึกษาความตระหนักในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมผ่านกระบวนการการมีส่วนร่วม กรณีศึกษา: หมู่บ้านศาลาแดงเหนือ เชียงรากน้อย. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ : กรุงเทพฯ.

ถวิลวดีบุรีกุล (2548). การมีส่วนร่วม แนวคิด ทฤษฎีและกระบวนการ, กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.

ลลิดา บุญมี. (2555). แนวทางการปรับปรุงสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ กลุ่มอาคารราชดำเนิน : กรณีศึกษา อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย/กรุงเทพฯ.

วิโรจน์ สารรัตนะ. (2544). โรงเรียนองค์การแห่งการเรียนรู้กรอบแนวคิดเชิงทฤษฎีทางการบริหารการศึกษา. กรุงเทพฯ : ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทิพย์วิสุทธิ.

ฐานิศวร์ เจริญพงศ์ และปิ่นรัชฎ์ กาญจนัษฐิติ. (2554). การอนุรักษ์มรดกสถาปัตยกรรมและชุมชน. กรุงเทพ : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ธราธร สุวรรณรักษ์ (2552) โครงการพัฒนาตลาดวัฒนธรรมในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์: กรณีศึกษาชุมชนท่าเตียนโครงการพัฒนาตลาดวัฒนธรรมในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์: กรณีศึกษาชุมชน ท่าเตียน. วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

อธิวัฒน์ สีดา. (2552). แรงจูงใจในการอนุรักษ์อาคารประวัติศาสตร์ :กรณีศึกษาอาคารตึกแถวในกรุงรัตนโกสินทร์. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ : กรุงเทพฯ.

Pimonsathean, Y.(1999). Thailand. Built Environment.Conservation Education as a Form of Community Service in Bangkok.

Thaitakoo, Pimonsathean. (1999). Banks, and James A. 2001. Cultural Diversity and Education : Foundations, Curriculum, and Teaching. Boston: Allyn and Bacon.

Kammeier, H.D. (2004). Sustainable City Symposium of Bangkok. หจก.เชียงใหม่โรงพิมพ์แสงศิลป์.
United Nation. (1998). Popular Participation In Decision Making For Development, New York: United Notwess Publication.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-10-08

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย