ประสิทธิผลการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร

ผู้แต่ง

  • วินัยธรอุดมชัย อวยพร หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
  • สถิตย์ นิยมญาติ หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

คำสำคัญ:

ประสิทธิผล, การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์, คุณธรรมและจริยธรรม

บทคัดย่อ

            งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัย มี 3 ประการ คือ (1) เพื่อศึกษาประสิทธิผลการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม (2) เพื่อศึกษาวิธีการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม และ (3) เพื่อให้ข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับประสิทธิผลของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เกี่ยวกับการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม การวิจัยนี้มีลักษณะเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพข้อมูลที่ต้องการเพื่อการวิจัยได้มาจากเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วมและการสัมภาษณ์เจาะลึกผู้รู้เรื่องที่ 20 ท่าน ผู้บริหารฝ่ายสงฆ์ และพระสงฆ์ที่มีความรู้และประสบการณ์สูงได้รับเลือกโดยจงใจ เพื่อประโยชน์ในการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก ข้อมูลที่เก็บได้มาจาก 3 แหล่งถูกนำไปวิเคราะห์โดยอาศัย       การวิเคราะห์เนื้อหาและการบรรยายพรรณนา
           ผลการวิจัยพบว่า ประสิทธิผลการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์พบว่า (1) มีการสร้างองค์ความรู้ ทักษะ และคุณธรรมจริยธรรม มีการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีความรู้คู่คุณธรรม และปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ (2) การดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ปรากฎมี ด้านศีล การฝึกอบรม พฤติกรรมที่ถูกต้องตามหลักจริยธรรม พระสงฆ์มีความเคร่งครัดเป็นอย่างมาก  เกี่ยวกับการปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับศีลของศาสนาพุทธ พระสงฆ์ได้ปฏิบัติตนให้เป็นตัวอย่างของสามเณรและผู้อยู่ใต้บังคับบัญชามีการปฏิบัติตนอยู่ในกฎระเบียบ ด้านสมาธิ การฝึกอบรมทางด้านการสร้างความสงบของจิตใจได้รับการให้ความสำคัญอย่างมาก พระสงฆ์ที่ได้รับฝึกอบรมสามารถควบคุมจิตใจ หรือ อารมณ์ได้ดี และปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตใจที่มั่นคง และ ด้านปัญญาเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มีการแก้ไขปัญหา ในการปฏิบัติหน้าที่โดยความรู้เท่าทันกับสภาพในปัจจุบัน และทำงานโดยใช้หลักของเหตุผล (3)เสนอแนะควรมีการจัดอบรมให้พระสงฆ์จัดกิจกรรม โดยพระสงฆ์บวชใหม่ได้ปฏิบัติปรับตัว รวมทั้งพูดคุยสั่งสอนเรื่องการเรียนพระธรรมวินัยแก่พระสงฆ์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของพระธรรมวินัย

เอกสารอ้างอิง

กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม และ คณะ. (2550). การพัฒนาส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ประชาชนประจำปี. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ.(2540). คู่มือพระสังฆาธิการว่าด้วยเรื่องการคณะสงฆ์และการศาสนา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา

กองแผนงาน กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). คู่มือพระสังฆาธิการว่าด้วย พระราชบัญญัติ กฎ ระเบียบ และคำสั่งของคณะสงฆ์. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา.

กัลยา ครองแก้ว และคณะ. (2540). สถิติ. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นิสดารก์ เวชยานนท์. (2550). บทความทางวิชาการ HR. กรุงเทพฯ : คณะรัฐประศาสนศาสตร์. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.

บรรยงค์ โตจินดา. (2546). การบริหารงานบุคคล. กรุงเทพฯ : รวมสาส์น.

บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.

พระพุทธวรญาณ. (2548). ธรรมญาณนิพนธ์ : 100 ปีพระพุทธวรญาณ, พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

Abranam H. Maslow. (1973). A Theory of Human Motivation. Psychological Review 50.

Andrew Mayo อ้างใน สุรพงษ์ มาลี, “The Human Capital Journey : เส้นทางสู่บทบาทใหม่ของการบริหารทุนมนุษย์”, วารสารข้าราชการ, ปีที่ 51 ฉบับที่ 2, (มีนาคม-เมษายน 2549), หน้า 22-25.

Douglas McGregor. (1960). The Human Side of Enterprise. New York : McGraw – Hill.

D. Jamali, G. Khoury, H. Sahyoun, (2006). The Learning Organization, Leadership styles in the Palestinian large‐scale industrial enterprises.

Flippo. Edwin B. Management : (1971). A Behavioral Approach.Boston : Allyn & bacon.

Lyman W. Porter and Edwarad E. Lawler III. (1968). Managerial Attitudes and Perfomance. Homewood. III. Dorsey Press.

Megginson. Leon C. Personnel. (1969). A Behavioral Approach to Administration. Homewood: Richard

D Lrwin.

Pace.RW.Smith. (1991). Human Resource Development. New Jersey : Prentlice Hall.

Robbins, S. P. (1990). Organization theory: Structure, design and applications (3rd ed.). Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.

Sabatier &Mazmanian 1980) “The Implementation of Public Policy: A Framework of Analysis”. Policy Studeies Journal Contents. Special Issue.

Vangen andHuxham (2010). Introducing the theory of collaborative advantage. In: Osborne, S (ed.) The New Public Governance? Emerging perspectives on the theory and practice of public governance. London, Routledge, pp 163-164

Wheelen, T. L. & Hunger, J. D. (2006). Strategic Management and Business Policy. (10thed). New Jersey : Pearson Prentice Hall.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-02-26

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย