ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของหญิงอายุ 30 – 70 ปี ในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
คำสำคัญ:
คำสำคัญ: ความรู้ ทัศนคติ และการตรวจเต้านมด้วยตนเองบทคัดย่อ
การศึกษาเรื่อง ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของหญิงอายุ 30-70 ปี ในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล ความรู้เกี่ยวกับการตรวจเต้านมด้วยตนเอง และทัศนคติเกี่ยวกับการตรวจเต้านมด้วยตนเอง กับพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของหญิงอายุ 30-70 ปี ในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ กลุ่มตัวอย่าง คือประชาชนเพศหญิงที่มีอายุอยู่ในช่วง 30-70 ปี จำนวน 342 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา และสถิติอนุมาน ได้แก่ สถิติวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน การทดสอบไคสแควร์ และการทดสอบของฟิชเชอร์ ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีอายุเฉลี่ย 49.19 ปี ส่วนใหญ่มีสถานภาพสมรส ร้อยละ 90.40 สำเร็จการศึกษาในระดับประถมศึกษา ร้อยละ 46.20 ไม่ได้ประกอบอาชีพ คือ ว่างงาน/แม่บ้าน ร้อยละ 64.60 และคนในครอบครัวไม่มีประวัติป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม ร้อยละ 90.60 ความรู้เกี่ยวกับการตรวจเต้านมด้วยตนเองอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 92.10 ทัศนคติเกี่ยวกับการตรวจเต้านมด้วยตนเองอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 95.00 และพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองอยู่ในระดับดี ร้อยละ 95.00 เมื่อทดสอบความสัมพันธ์พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อาชีพ และประวัติการเป็นโรคมะเร็งเต้านมของสมาชิกในครอบครัวมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของหญิงอายุ 30-70 ปี ในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ คือ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value < 0.001 และ p-value = 0.017) เช่นเดียวกับความรู้เกี่ยวกับการตรวจเต้านมด้วยตนเองและทัศนคติเกี่ยวกับการตรวจเต้านมด้วยตนเองที่มีความสัมพันธ์ทางบวกอยู่ในระดับต่ำมากกับพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของหญิงอายุ 30-70 ปี ในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดงจังหวัดสมุทรปราการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (r = 0.131, p-value = 0.016 และ r = 0.129, p-value = 0.017 ตามลำดับ)
เอกสารอ้างอิง
พัชยา ภัคจีรสกุล และคณะ. (2559) ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของหญิงไทยในจังหวัดลำปาง. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์:ม.ป.ท.
เพ็ญพิศ จีระภา. (2554). แรงจูงใจในการตรวจเต้านมด้วยตนเองของสตรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.
มาสินี ไพบูลย์, คณิตา ชาดี, สุนัน เลขวรรณวิเศษ, สุมาลี พงศ์ผกาทิพย์, และพจน์ชวิทย์ อภินิเวศ. (2556). การส่งเสริมพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของบุคลากรสตรีแผนกการพยาบาลผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลศรีนครินทร์.ศรีนครินทร์เวชสาร, 28(1), 115-119.
รังษีนพดล โถทอง และคณะ. (2557). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการตรวจเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยก่อนหมดประจำเดือน. วารสารโรคมะเร็ง, 39(1), 16-27
โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต. (2559). ศูนย์มะเร็งตรงเป้า. สืบค้น 10 ตุลาคม 2563, จากhttps://www.chularatcancercenter.com/th/%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0
วรรณี ศักดิ์ศิริ. (2557). ความรู้ เจตคติเกี่ยวกับการตรวจเต้านมด้วยตนเองสตรีอายุ 30 ปีขึ้นไปในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านดอนคา. นครศรีธรรมราช: รายงานการวิจัยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านดอนคา.
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ. (2560). แผนการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งแห่งชาติ พ.ศ. 2561-2565. กรุงเทพฯ:กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.
สิรินุช บูรณะเรืองโรจน์. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองในสตรีไทย เขตอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก. วารสารพฤติกรรมศาสตร์เพื่อการพัฒนา, 8 (1), 279-294.
สุธารัตน์ ชำนาญช่าง, ปนัดดา ปริยทฤฆ, และกนกพร หมู่พยัคฆ์. (2557). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยแรงงาน. วารสารพยาบาลศาสตร์, 32(3), 42-51.
อิโอนา โคอิเกะ, จิราพร ชมพิกุล, บังอร เทพเทียน, และนฤมล ไม้แก่น. (2661). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการตรวจเต้นมด้วยตนเองในหญิงไทย จังหวัดสมุทรสงคราม ประเทศไทย. วารสารสาธารณสุขและการพัฒนา,16(1), 29-43.
อุบล จันทร์เพชร. (2557). พฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของสตรีไทยอายุ 30-70 ปี ในพื้นที่เขตบริการสุขภาพที่ 5. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข: กรุงเทพฯ.
เอมอร ชินพัฒนะพงศา และกนกวรรณ สุวรรณปฏิกรณ์. (2557). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ประโยชน์ การรับรู้อุปสรรค และการรับรู้ความสามารถกับพฤติกรรมการตรวจเต้านมตนเองของนักศึกษาพยาบาล. วารสารพยาบาลสาธารณสุข, 28(3), 14-29.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
